ปลายทาง
ชิกะโคเก็น
อุทยานแห่งชาติ โจชิเน็ตสึโคเก็น

อุทยานแห่งชาติ โจชิเน็ตสึโคเก็น

shiga-kogen-green-season

อุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น – (上信越高原中立公園) ทอดยาวไปทั่วจังหวัดนากาโนะ, นีกาตะ และ กุนมะ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในญี่ปุ่น เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟที่รุนแรง ประกอบด้วยลาวาที่ไหลออกมาเป็นเวลาหลายล้านปี ภูมิทัศน์ในปัจจุบันมีความเงียบสงบมากขึ้น แต่ยังรักษาหลักฐานเตือนใจ 2-3 อย่างที่เคยปรากฏ ชี้ให้เห็นถึงพลังอันทรงพลังที่เคยหล่อหลอมและยังคงสร้างภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งนี้ต่อไป ในหน้าเว็บไซต์นี้คุณจะพบข้อมูลต่อไปนี้:

สถิติ & ข้อเท็จจริง

ไฮไลท์

สัตว์ป่า

สภาพอากาศ & ฤดูกาล

กอนโดล่า, กระเช้า & กระเช้าเก้าอี้

ปีนเขา & เส้นทางเดินป่า

สถานที่พักแรมในหมู่บ้านน้ำพุร้อน

วิธีเดินทางไปยังโจชิเน็ตสึโคเก็น

ทัวร์ & รถเช่าเหมารอบๆ อุทยานโจชิเน็ตสึโคเก็น

ในบรรดายอดเขาหลายแห่ง ภูเขาอาซามะและภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ ถือว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่มอดดับ โดยอาซามะอ้างว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมากที่สุดบนเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น ในขณะที่ทะเลสาบที่อยู่บนปล่องภูเขาไฟยูกามะ แห่งคุซัทสึ-ชิราเนะ เป็นทะเลสาบที่มีความเป็นกรดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

kusatsu-shirane-gunma

แต่อย่าปล่อยให้ข่าวลือของภูเขาไฟที่ค่อนข้างน่ากลัวเหล่านั้นขัดขวางคุณได้! โจชิเน็ตสึเป็นภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ของป่าสน บ่อน้ำ ทะเลสาบ และหนองน้ำ โดยมียอดเขาหลายลูกที่สูงกว่า 2,000 เมตร อุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยพื้นที่น้ำพุร้อนหลายแห่ง ซึ่งเป็นผลจากการปะทุของภูเขาไฟด้านล่าง พร้อมด้วยพืชและสัตว์นานาชนิดที่ดึงดูดผู้ชื่นชอบธรรมชาติจากทั่วโลก

central-area-shiga-kogen-ski-snow
shiga-kogen-ski-package-banner

ทั้งสวนลิงจิโกคุดานิ พื้นที่เล่นสกีหลายแห่ง สกีรีสอร์ทที่ใหญ่และสูงที่สุดในญี่ปุ่นอย่างชิงะโคเก็น ก็ตั้งอยู่ภายในขอบเขตของอุทยาน โจชิเนตสึโคเก็นจึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภาคกลาง อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งนี้ก็มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายไม่แพ้กัน ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง โดยมีเส้นทางเดินป่าบนเทือกเขาแอลป์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น การถ่ายภาพธรรมชาติและสัตว์ป่า และใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นในแต่ละปี และการที่อุทยานอยู่สูงขึ้นไปก็ทำให้อุณหภูมิในหุบเขาและเมืองด้านล่างจะต่ำกว่าประมาณ 10°C อย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นการหลีกหนีจากความร้อนและความชื้นในฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี

สคิติ & ข้อเท็จจริง


จุดหมายปลายทาง: โจชิเน็ตสึโคเก็น ได้รับการประกาศว่าเป้นอุทยานแห่งชาติ ในปี 1949

ที่ตั้ง: สวนสาธารณะตั้งอยู่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ นากาโนะ กุมมะ และนีกาตะ

ขนาด: 148,194 ha / 1,481.94 km² / 572.18mi² = เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในญี่ปุ่น

จุดสูงสุด: ภูเขาอาซามะ 2,568m / 8,425ft

ยอดเขาสำคัญอื่นๆ: ภูเขาอะซุมายะ 2,354 ม. / 7,723 ฟุต; ภูเขาคุซัตสึ-ชิราเนะ 2,160 ม. / 7,086 ฟุต; ภูเขานาเอบะ 2,145 ม. / 7,037 ฟุต;

ภาพรวม: โจชิเน็ตสึโคเก็น ประกอบด้วยยอดเขาหลายลูกและภูมิทัศน์อันน่าทึ่งที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในช่วงหลายพันปี แม้ว่าภูเขาหลายแห่งภายในอุทยานเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว แต่ภูเขาอาซามะและภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ ยังคงคุกรุ่นอยู่ และเป็นแหล่งน้ำพุร้อนหลายแห่งในภูมิภาคด้วยน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์ กระแสลาวาได้ก่อให้เกิดภูมิประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เต็มไปด้วยน้ำและเครือข่ายที่กว้างขวางของสระน้ำ ทะเลสาบ และบึงที่มีความสำคัญทางนิเวศวิทยา ระหว่างยอดเขา ภูมิทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างป่าอัลไพน์และทุ่งหญ้าเปิดโล่งค่อยๆ เผยให้เห็นหน้าผาหินอันน่าทึ่งที่ตั้งตระหง่านเหนือแนวต้นไม้ทำให้เกิดทิวทัศน์อันตระการตา

ไฮไลท์


joshinetsu-shiga-kogen-landscape

ในฐานะอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของญี่ปุ่น เป็นเรื่องยากที่จะรวบรวมข้อมูลทุกอย่างในโจชิเน็ตสึเอาไว้ในหน้าเดียว เช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติอื่นๆ แหล่งท่องเที่ยวที่แท้จริงคือการออกไปสู่เส้นทางเปิดและนอกเส้นทางที่คุ้นเคย ห่างไกลจากฝูงชนที่แออัด และในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด นี่คือไฮไลท์ที่เราชื่นชอบและอยากแนะนำ:

สวนลิงจิโกคุดานิ

สวนลิงจิโกคุดานิ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของสวนสาธารณะ เป็นบ้านของลิงที่ชอบบ่อน้ำพุร้อนอันโด่งดังของนากาโนะ โดยสวนแห่งนี้จะมีชื่อเสียงที่สุดด้านพฤติกรรมช่วงฤดูหนาวของเหล่าลิง ลิงหรือลิงแสมญี่ปุ่น ปกติแล้วก็มักจะอาศัยอยู่ที่สวนสาธารณะตลอดทั้งปี แต่บางส่วนเองก็อาศัยอยู่ในโจชิเน็ตสึโคเก็นราวกับเป็นบ้านใหญ่ พวกมันเป็นกลุ่มลิงกลุ่มเดียวในโลกที่ลงแช่น้ำพุร้อนเป็น ซึ่งเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติที่เรียนรู้จากการเฝ้าดูมนุษย์เท่านั้น สวนลิงและบริเวณยามาโนะอุจิที่อยู่รอบๆ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองนากาโนะและอุทยานแห่งชาติ เป็นประตูทางทิศตะวันตกสู่โจชิเน็ตสึโคเกน

jigokudani-monkey
tour-banner

ที่ราบสูงชิงะโคเก็น

เมื่อขับรถเข้าไปในอุทยานแห่งชาติจากเมืองนากาโนะ คุณจะมาถึงบริเวณที่เรียกกันว่าที่ราบสูงชิงะโคเก็นเป็นอันดับแรก พื้นที่สูงชิงะโคเก็นได้รับการกำหนดให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑลของ UNESCO ในปี 1980 ครอบคลุมพื้นที่อุทยานทั้งหมดมากกว่า 30,000 เฮกตาร์ / 300 กม.² ภูมิภาคนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเป็นเวลาหลายล้านปี มีอาณาเขตเป็นยอดเขาหลายแห่ง รวมถึงภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ และหุบเขาบนเทือกเขาแอลป์ที่เต็มไปด้วยป่าเบญจพรรณ ทุ่งหญ้า และสระน้ำ ทะเลสาบ และบึงอีกประมาณเจ็ดสิบแห่ง ถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิดไม่แพ้กัน รวมถึงลิงแสมญี่ปุ่น หมีดำ ‘คาโมชิกะ’ แพะประเภทหนึ่ง อินทรีทองคำ และอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ที่ราบสูงชิงะโคเก็นจะมีการเดินบนเส้นทางเทือกเขาแอลป์ที่สนุกสนานที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงพอสมควร ส่วนในฤดูหนาว  ก็ยังมีกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดในรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในญี่ปุ่น…

shiga-kogen-green-season

สกีรีสอร์ทชิงะโคเก็น

ลานสกีทั้ง 18 แห่งของ ชิงะโคเก็นสกีรีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ในที่ราบสูงชิงะโคเก็น รวมกันเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อถึงกันและเป็นลานสกีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังมีลานสกีแบบนั่งเก้าอี้สูงที่สุดที่ความสูง 2,307 เมตร ในขณะที่รีสอร์ทอื่นๆ ส่วนใหญ่มีความสูงสูงสุดระหว่าง 1,800 – 1,900 เมตร แต่ชิงะโคเก็นก็กำลังไปถึงจุดนั้นด้วยยอดเขาหลายลูกที่สูงกว่า 2,000 เมตร ซึ่งเป็นรีสอร์ทแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่สามารถอวดอ้างคุณสมบัติดังกล่าวได้ พื้นที่สูงและภูมิประเทศที่สูงขึ้นของชิงะ ผสมผสานกันทำให้มีฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดของนากาโนะ ซึ่งโดยปกติจะเปิดตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายน (หรืออาจยาวไปจนถึงพฤษภาคม) และมีสภาพหิมะที่น่าเชื่อถือที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้มากเท่ากับรีสอร์ทที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง เช่น เมียวโกะโคเก็น และฮาคุบะแวลลี่ย์ แต่ที่ตั้งทางบกของชิงะก็ทำให้หิมะแห้งกว่า และอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นได้นานกว่า (เนื่องจากระดับความสูงและลักษณะทางภูมิประเทศ) และการที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ก็ช่วยไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปด้วย

shiga-kogen
japan-ski-resorts-banner

ภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ

ภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ ตั้งอยู่บนขอบเขตตะวันออกเฉียงใต้ของที่ราบสูงชิงะโคเก็น อยู่ตรงกลางอุทยานแห่งชาติโดยรวม ที่ระดับความสูง 2,160 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และมีทะเลสาบที่เป็นกรดมากที่สุดในโลก นั่นคือ ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟยูกามะ และเนื่องจากมีหิมะตกหนักในฤดูหนาว พื้นที่รอบๆ ชิราเนะจึงสามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น เส้นทางเดินป่าทอดยาวไปรอบปล่องภูเขาไฟผ่านหุบเขาอัลไพน์อันอุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่ของพืชและสัตว์ที่มีเอกลักษณ์มากมาย

kusatsu-shirane-gunma

เส้นทาง คุซัทสึ ชิราเนะ โคเก็น

เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – ปลายเดือนพฤศจิกายน เส้นทางชิงะ คุซัตสึ โคเก็นเป็นเส้นทางขับรถบนเทือกเขาแอลป์แสนงดงามที่คดเคี้ยวผ่านอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น วิ่งจากประตูสู่คุซัทสึออนเซ็น – ดูรายละเอียดด้านล่าง – มุ่งหน้าสู่สวนลิงจิโกคุดานิ เส้นทางนี้จะพานักท่องเที่ยวผ่านภูเขาชิราเนะ ภูเขาโยโกเตะ และพื้นที่สวยงามอื่นๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ

joshinetsu-shiga-kusatsu-kogen-route

หากเดินทางด้วยวิธีข้างต้น ผู้เยี่ยมชมสามารถแวะจอดและเข้าถึงจุดที่สวยที่สุดในอุทยานแห่งชาติ รวมถึงเส้นทางเดินป่ารอบภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ ซึ่งจะมีที่พักให้เลือกมากมายตลอดทาง โดยเฉพาะที่ทางเข้าสองแห่งของคารุอิซาวะและจิโกคุดานิ สวนลิงและเมืองน้ำพุร้อนโดยรอบของคันบายาชิออนเซ็น, ชิบุออนเซ็น และยูดานากะออนเซ็น – ดูรายละเอียดด้านล่าง

ภูเขาอาซามะ & อุทยานภูเขาไฟโอนิโอชิดาชิ

ที่ระดับความสูง 2,568 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ยอดเขาอาซามะถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติ และยังอ้างว่าเป็นภูเขาไฟที่ปะทุมากที่สุดบนเกาะฮอนชูหลักของญี่ปุ่น การปีนเขาอาซามะเป็นสิ่งต้องห้าม เเพราะมีเส้นทางธรรมชาติที่เปิดโล่งซึ่งอาจทำให้นักปีนเขาเป็นอันตรายได้พอๆ กันกับการปะทุของภูเขาไฟ อุทยานภูเขาไฟโอนิโอชิดาชิซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาหลายกิโลเมตร เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าทึ่ง มีลักษณะการก่อตัวของภูมิทัศน์โดยรอบ ในอุทยานแห่งนี้ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอาซามะ ซึ่งจัดแสดงข้อมูลและการจัดแสดงเกี่ยวกับภูเขาอาซามะและภูมิศาสตร์ของภูเขาไฟ และที่โดดเด่นที่สุดคือ ‘สวน’ ตามธรรมชาติที่กว้างขวาง มีก้อนหินและหินขนาดมหึมาพุ่งออกมาจากภูเขาไฟระหว่างการปะทุครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายในปี 1783 จนปัจจุบันเกิดเป็นเส้นทางเดินคดเคี้ยวไปมาระหว่างก้อนหินที่ประกอบกันเป็นวงจรเดินระยะสั้นและระยะยาว พืชอัลไพน์หายากนานาพันธุ์เจริญรุ่งเรืองอยู่ตามโขดหินเหล่านั้น เติบโตในภูมิประเทศที่ราวกับเป็นโลกอีกใบ รวมถึงมีมอสเรืองแสงตามธรรมชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาคนี้

onioshidahi-volcanic-park-gunma

วัดที่ตั้งอยู่ภายในก้อนหินซึ่งอุทิศให้กับพระคันนอน หนึ่งในพระโพธิสัตว์ที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น มีจุดเด่นในด้านการถ่ายรูปใต้ร่มเงาของภูเขาที่รกร้าง ทั้งหมดนี้อยู่ไม่ไกลจากเมืองตากอากาศคารุอิซาวะ

ภูเขานาเอบะ

ภูเขานาเอบะ ตั้งอยู่ในนีกาตะ และบริเวณทางเหนือของอุทยานแห่งชาติ ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโจชิเน็ตสึโคเก็น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องหิมะตกหนักในฤดูหนาว และการเดินป่าแบบสบายๆ ตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วง พื้นที่นี้ปกคลุมไปด้วยป่าบีชและหนองน้ำ มีดอกไม้อัลไพน์ที่เรียงรายตระการตาในฤดูร้อน สกีรีสอร์ทนาเอบะและสกีรีสอร์ทคากุระที่เชื่อมต่อกันตั้งอยู่ที่นี่ ถือเป็นสกีรีสอร์ทยอดนิยมสองแห่งในนีกาตะ นาเอบะสกีรีสอร์ทยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น อย่างงานฟูจิร็อคอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดด้านล่าง

naeba-yuzawa-niigata

ภูเขาทานิกาวะ

แม้จะสูงเพียง 2,000 เมตร แต่ภูเขาทานิกาวะก็เป็นภูเขาที่น่าทึ่งซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหิมะตกหนักในฤดูหนาว และการเดินป่าที่ท้าทายตลอดฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ทานิกาวะตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างนีกาตะและกุนมะ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอุทยานแห่งชาติ ทานิกาวะมีกิจกรรมปีนเขาในฤดูหนาวที่น่าตื่นเต้นที่สุดในญี่ปุ่นตอนกลาง ในขณะที่ในฤดูร้อน หน้าผาสูงชันและหน้าผาหินสูงตระหง่าน ก็เป็นที่ดึงดูดนักปีนเขาจากทั่วทุกมุมโลก ผู้เยี่ยมชมที่อยากประหยักเวลาในการสำรวจที่ทานิกาวะ ก็สามารถใช้กระเช้าลอยฟ้าทานิกาวะดาเกะเพื่อขึ้นไปบนเทือกเขาสูง และเพลิดเพลินไปกับเส้นทางเดินอันน่าอัศจรรย์ ซึ่งสวยงามที่สุดในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงที่ป่าเต็มไปด้วยสีสันอันตระการตา สำหรับนักเดินป่าและนักปีนเขาที่มีประสบการณ์ นี่คือประตูสู่เทือกเขาทังกิกาวะที่ประกอบด้วยยอดเขาหลายแห่ง รวมถึงภูเขาชิเกคุระ ภูเขามันทาโร และภูเขาไทรัปเปียว

tanigawa-niigata-koyo-autumn

เขตรักษาพันธุ์นกป่า คารุอิซาวะ

เขตรักษาพันธุ์นกป่าคารุอิซาวะ ตั้งอยู่ในเมืองตากอากาศคารุอิซาวะ ซึ่งเป็นประตูทางใต้สู่อุทยานแห่งชาติ และเป็นหนึ่งในสี่สถานที่ดังกล่าวในญี่ปุ่น ป่าคุ้มครองครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 625 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของนกอย่างน้อย 80 สายพันธุ์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกกว่า 40 สายพันธุ์ ซึ่งมีสิ่งมีชีวิตมากมายและหลากหลายเกินกว่าจะระบุไว้ที่นี่ได้ รวมไปถึงเหล่าไก่ฟ้าพื้นเมือง นกหัวขวาน นกเด้าลม นกฮูก และอื่นๆ อีกมากมาย

takayama-nature-bird

หมู่บ้านนำพุร้อน

การปะทุของภูเขาไฟภายในอุทยานแห่งชาติ จงทำให้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วย ‘ออนเซ็น’ (น้ำพุร้อนธรรมชาติ) มากมาย จนเกิดเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นสองแห่ง ที่ด้านนอกโจชิเน็ตสึโคเก็น มีบริเวณยามะโนะอุจิ ซึ่งถือเป็นประตูทางทิศตะวันตกสู่สวนสาธารณะและเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านน้ำพุร้อนสามแห่ง ได้แก่ ยูดานากะ ชิบุ และคันบายาชิ ยูดานากะออนเซ็นและชิบุออนเซ็น มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในฐานะหมู่บ้านแห่งการบำบัด ขึ้นชื่อเรื่องน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุ ในขณะที่คันบายาชิออนเซ็นในบริเวณใกล้เคียงนั้นเป็นที่ตั้งของเกสต์เฮาส์น้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมและสวนลิงจิโกคุดานิที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ภายในอุทยานแห่งชาติมีน้ำพุร้อนกระจายอยู่ทั่ว และมีโรงแรมหลายแห่งที่มีออนเซ็นในตัว

kusatsu-onsen

หมู่บ้านคุซัทสึออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุด เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางบ่อน้ำพุร้อนที่รู้จักกันดีที่สุดในญี่ปุ่น คุซัทสึมีศูนย์กลางอยู่ที่ ‘ยูบาทาเกะ’ อันเป็นเอกลักษณ์ (ภาพด้านบน) เป็น ‘ทุ่งน้ำร้อน’ แบบเปิดโล่งขนาดมหึมาซึ่งมีน้ำร้อนไหลลงมา ทิ้งเอาไว้เพื่อรอให้อุณหภูมิเย็นลง ก่อนที่จะถูกนำมาใช้เติมห้องอาบน้ำตามที่พักหลายแห่งในเมือง คุซัทสึอยู่ไม่ไกลจากคารุอิซาวะ ประตูทางใต้สู่อุทยานแห่งชาติ อยู่ไม่ไกลจากภูเขาอาซามะ และหมู่บ้านน้ำพุร้อนอื่นๆ หลายแห่ง รวมถึงมันซะออนเซ็น และชิมะออนเซ็น – ดูได้ใน ‘ที่พักภายในหมู่บ้านน้ำพุร้อน’ ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

วิธีที่ง่ายที่สุดในการชมเมืองคุซัทสึคือการใช้บริการทัวร์พร้อมไกด์ของเรา! ไกด์นำทางที่เป็นมิตรของคุณที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่รับประทานอาหารกลางวันและออนเซ็นดีๆ ในบริเวณนี้ คุณจะสามารถใช้เวลาของคุณให้คุ้มค่าที่สุดในเมืองที่แสนน่ารักแห่งนี้ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถแวะที่ภูเขาอาซามะ โอนิโอชิดาชิ-เอ็น และภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะที่กล่าวมาข้างต้นได้ ธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น ยังทำให้แผนการเดินทางนี้น่าจดจำมากขึ้นอีกด้วย

สัตว์ป่า


shika-spotted-deer

โจชิเนตสึโคเก็นเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด ตั้งแต่นกไปจนถึงแมลงบนเทือกเขาแอลป์หายาก ลิงหิมะอันโด่งดัง และหมีดำที่เข้าใจยาก มีสิ่งต่างๆ มากมายเกินกว่าจะบรรยายได้ที่นี่ และนี่คือรายการโปรดบางส่วนของเรา แน่นอนว่ามาเริ่มต้นกันที่เจ้าลิงสุดป็อปกันเลย:

ลิงแสมญี่ปุ่น

ลิงแสมญี่ปุ่นมีชื่อเรียกอย่างถูกต้องว่า ‘นิฮอนซารุ’ (ลิงญี่ปุ่น) แต่มักเรียกง่ายๆ ว่า ‘ลิงหิมะ’ พบได้ทั่วประเทศ ตั้งแต่เขตร้อนทางตอนใต้ไปจนถึงความหนาวเย็นและหิมะทางตอนเหนือ ลิงแสมมีความฉลาด ปรับตัวได้ และเข้าสังคมได้ จับกลุ่มกันมากกว่า 150 ตัวเพื่อติดตามจ่าฝูงที่เป็นเพศผู้ พวกมันอยู่ในอาณาเขต และโดยทั่วไปจะเคลื่อนที่ภายในรัศมีหลายกิโลเมตรในแต่ละวัน ตัวผู้ที่โตเต็มที่จะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ย 57 ซม. / 11 กก. ในขณะที่ตัวเมียที่โตเต็มที่จะน้อยกว่าเล็กน้อยที่ 52 ซม. / 85.กก. พวกมันเหล่านี้คือลิงผู้รักบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของนากาโนะ ซึ่งเป็นพฤติกรรมเฉพาะของฝูงเมื่อมาถึงสวนลิงจิโกคุดานิ เหล่าลิงน้อยตัวแทนทูตอย่างไม่เป็นทางการประจำภูมิภาค สามารถพบเห็นพวกมันเคลื่อนตัวไปทั่วอุทยานแห่งชาติในทุกฤดูกาล

jigokudani-monkey-winter

เลียงผาญี่ปุ่น

รู้จักกันในชื่อ ‘คาโมชิกะ’ ในภาษาญี่ปุ่น เป็นแพะละมั่งชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วอุทยาน คาโมชิกะโตเต็มวัยจะสูงประมาณ 80 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 30 ถึง 45 กิโลกรัม และมีขนหนาสีเทาดำ ซึ่งจะมีสีอ่อนลงในช่วงฤดูร้อน พวกมันมีเขาและหางสั้น มักพบเห็นตามลำพังหรือร่วมกับคู่ครองและทารก คาโมชิกะเคลื่อนไหวช้าๆ กลมกลืนกับภูมิประเทศได้ดี ซึ่งหมายความว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินผ่านไปโดยไม่สังเกตเห็น ดังนั้นจงลืมตาไว้ไม่ช้าก็เร็วคุณจะพบกับสิ่งนั้นและดูเหมือนอยากรู้เกี่ยวกับเราพอๆ กับที่เราอยากรู้เกี่ยวกับพวกเขา

kamoshika

กวางดาว

กวางดาวลายจุดหรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ‘ชิกะ’ พบได้ในหลายประเทศทั่วเอเชีย กวางขนาดกลางเหล่านี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ตรงที่พวกมันมักจะรักษาลายจุดเอาไว้ได้เมื่อโตเต็มวัย ชิกะที่โตเต็มวัยจะยืนสูงประมาณ 50 ถึง 110 ซม. เมื่อวัดจากไหล่ และสูง 95 ถึง 180 ซม. เมื่อวัดจากหัวถึงหาง กวางโตเต็มวัยจะมีเขากวาง ในขณะที่ตัวเมียโตเต็มวัยจะมีตุ่มสีดำที่เด่นชัดบนหน้าผาก โดยทั่วไปแล้วชิกะป่าจะขี้อาย แต่มักจะเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน จึงสามารถพบเห็นได้ง่าย

shika-spotted-deer

หมีดำเอเชีย

หมีดำเอเชียพบได้ทั่วทั้งโจชิเน็ตสึโคเก็น ส่วนใหญ่เป็นสัตว์กินพืชที่มีนิสัยขี้อาย โดยปกติแล้วหมีดำชนิดนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 120 – 140 ซม. โดยตัวผู้มีน้ำหนักระหว่าง 60 – 120 กก. และตัวเมียมีน้ำหนักระหว่าง 40 – 100 กก. มีขนาดเล็กกว่าหมีหลายสายพันธุ์ จะออกหากินมากที่สุดตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง และจำศีลตลอดฤดูหนาว สื่อต่างๆ ในระดับชาติ มักจะใส่ร้ายหมีหลังจากเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศ ทำให้เหล่าหมีมักถูกจับและมีมนุษย์บุกรุกที่อยู่อาศัยของพวกมันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แต่ความจริงก็คือหมีเหล่านี้ขี้อาย และถึงแม้จะมีหมีมากมายในอุทยานแห่งชาติ แต่ก็หายากที่จะเห็นพวกมัน เนื่องจากมันไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเรา

black-bear

ตัวสโตธ

ตัวสโตธญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักในชื่อ ‘โอโคโจ’ เป็นสายพันธุ์พังพอนที่อาศัยอยู่บริเวณใต้เทือกเขาแอลป์ หรือถิ่นที่อยู่อาศัยที่สูงกว่า 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ขนของพวกมันดูจะเปลี่ยนสีได้โดยสิ้นเชิงตามแต่ละฤดูกาล ตั้งแต่สีน้ำตาลเข้ม แซมสีขาวด้านล่างในช่วงฤดูร้อน ไปจนถึงสีขาวเกือบทั้งหมดในฤดูหนาว

stoat-okojo

นกอินทรีทอง

อินทรีทองคำที่สวยงามของญี่ปุ่น สามารถพบได้ตั้งแต่ฮอกไกโดทางตอนเหนือไปจนถึงคิวชูทางใต้ อยู่ครอบคลุมทั่วทั้งเกาะหลักทั้งสี่ของญี่ปุ่น ความหลากหลายทางนิเวศวิทยาของโจชิเน็ตสึ โคเก็น ทำให้นกอินทรีมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมพร้อมเหยื่อมากมายให้ล่าตลอดปี

washi-eagle

นกชนิดอื่นๆ

อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มีนกนานาชนิด ตั้งแต่ไก่ฟ้าไปจนถึงนกเด้าลม นกพิราบป่า นกหัวขวาน นกฮูก และอื่นๆ อีกมากมาย ปลายฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดสำหรับส่องนก

bird

สภาพอากาศ & ฤดูกาล


joshinetsu-shiga-kogen-landscape

ภูมิประเทศที่กว้างใหญ่และหลากหลายของโจชิเนตสึโคเก็น ทำให้พื้นที่ต่างๆ มีสภาพอากาศเฉพาะสถานที่ แต่โดยทั่วไปแล้ว ระดับความสูงของอุทยานทำให้สภาพอากาศเย็นกว่าหุบเขาด้านล่างอย่างเห็นได้ชัด หากต้องการทราบอุณหภูมิบนนี้ ปกติแล้วก็ให้ลบอุณหภูมิในเมืองใกล้เคียงออกไปประมาณ 10°C แล้วคุณจะสามารถทราบอุณหภูมิโดยประมาณของที่นี่ได้ทุกช่วงเวลาของปี ในฤดูร้อนเท่ากับเป็นการหลีกหนีจากความร้อนสุดขั้ว และความชื้นของเมืองที่แผ่กิ่งก้านสาขาของญี่ปุ่น โดยนี่คือภาพรวมของสิ่งที่คาดหวังตลอดทั้งฤดูกาล:

ฤดูหนาว / ปลายพฤศจิกายน – มีนาคม

โจชิเน็ตสึโคเก็น มีช่วงฤดูหนาวที่ยาวนานกว่าภูมิภาคส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น โดยโดยทั่วไปอุณหภูมิจะหนาวถึงหนาวมาก อุณหภูมิค้างคืนในช่วงกลางฤดูหนาว อาจต่ำได้ถึง -20°C หรือต่ำกว่านั้น – ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมจะมีหิมะตกได้ทุกเวลา และอาจเริ่มตกตั้งแต่เดือนตุลาคมในพื้นที่สูงตั้งแต่ 2,000 เมตรขึ้นไป ส่วนพื้นที่ตอนล่างจะเริ่มมีหิมะตกตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป และพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานมีแนวโน้มที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงเดือนธันวาคม โดยน้ำตกที่หนักที่สุดจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคม ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในฤดูหนาวคือการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด ชิงะโคเก็นสกีรีสอร์ทตั้งอยู่ภายในอุทยานโดยรวม เป็นสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยอยู่ระหว่างความสูง 1,330 – 2,307 เมตร และมีฤดูเล่นสกีที่ยาวนานที่สุดของนากาโนะ ในขณะที่รีสอร์ทร่วมของนาเอบะสกีรีสอร์ท และคางุระสกีรีสอร์ท ก็มีพื้นที่เล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนีกาตะ

snowboard-general
japan-ski-resorts-banner

ฤดูใบไม้ผลิ / ปลายเดือนมีนาคม – มิถุนายน

อุทยานแห่งนี้ยังคงมีหิมะตกหนักในเดือนมีนาคม โดยปริมาณจะค่อยๆ ลดลงจนเข้าเดือนเมษายน ในขณะที่หิมะตกหนักกระจายไปจนถึงเดือนพฤษภาคมไม่ใช่เรื่องแปลก พื้นที่ของสกีรีสอร์ทชิงะโคเก็นปกติจะเปิดให้บริการจนถึงปลายเดือนเมษายน หรืออาจยาวไปยันเดือนพฤษภาคม และในขณะที่หิมะเริ่มละลาย ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีในการสำรวจสวนสาธารณะโดยใช้รองเท้าเดินหิมะ เมื่อฤดูหนาวจางหายไปและฤดูใบไม้ผลิมาถึง สัตว์ป่าจะตื่นตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวก็ต่ำที่สุด ทำให้ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับโจชิเน็ตสึ​​โคเก็นได้อย่างอิสระ แต่เนื่องจากความสูงของอุทยาน จึงทำให้มีต้นซากุระไม่มากนัก แต่ก็อาจพบเห็นได้สองสามต้น

kamoshika-winter

ฤดูร้อน / กรกฎาคม – สิงหาคม

ฤดูร้อนของโจชิเน็ตสึโคเก็นนั้น จะสั้นกว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัด นักท่องเที่ยวจึงนิยมหลีกหนีจากความร้อนและความอับอ้าวในเมืองต่างๆ มาที่นี่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว บนอุทยานจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าในเมืองต่างๆ ด้านล่างประมาณ 10°C ยิ่งสูงขึ้นความชื้นก็น้อยลง ทำให้ช่วงกลางวันจะอบอุ่นแต่จะมีลมเย็นๆ พร้อมด้วยอุณหภูมิที่สดชื่นในตอนกลางคืน ฤดูร้อนเป็นช่วงของการเดินป่า วิ่ง และปั่นจักรยาน เมื่อหิมะละลายหายไป และเส้นทางเดินป่าหลายแห่งในสวนสาธารณะยังเปิดอยู่ ก็จะมีเส้นทางที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายซึ่งทอดยาวไปทั่วโจชิเน็ตสึโคเก็น ซึ่งก็มีกระเช้าลอยฟ้าและกอนโดล่าหลายแห่งเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากหายไปช่วงสั้นๆ หลังฤดูกาลเล่นสกี – ดูรายละเอียดด้านล่าง การใช้สิ่งเหล่านี้เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเข้าถึงพื้นที่สูงของโจชิเนตสึ โคเก็น ซึ่งในฤดูร้อน คุณมักจะพบกับการจัดแสดงดอกไม้และนกบนเทือกเขาแอลป์อันตระการตา

shiga-kogen-green-season

ฤดูใบไม้ร่วง/กันยายน – กลางเดือนพฤศจิกายน

ฤดูร้อนที่สั้นกว่า ทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นเวลาที่โจชิเน็ตสึโคเก็น จะได้รับพรจากสีสันฤดูใบไม้ร่วงที่ตระการตาที่สุดในญี่ปุ่น รับชมใบไม้ร่วงที่รู้จักกันในชื่อ ‘โคโย’ ในภาษาญี่ปุ่น ผ่านการขึ้นกระเช้าลอยฟ้าและกอนโดล่าที่จะเปิดให้บริการจนถึงปลายเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่จะปิดทำการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูเล่นสกีที่กำลังจะมาถึง ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีในการเพลิดเพลินไปกับบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งในโจชิเน็ตสึโคเก็น ซึ่งให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษกับอากาศที่เย็นสบายในฤดูใบไม้ร่วงและใบไม้ร่วง

autumn-leaves-koyo-shiga-kogen

เรือกอนโดล่า กระเช้าลอยฟ้า & กระเข้าเก้าอี้


shiga-kogen-yokoteyama-green-season

โจชิเนตสึโคเก็นมีกระเช้ากอนโดลา กระเช้าลอยฟ้า และกระเช้าเก้าอี้หลายแห่งกระจายอยู่ทั่วอุทยาน และยังมีสกีรีสอร์ทหลายที่เปิดให้บริการตลอดฤดูหนาว โดยหลายแห่งยังคงเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วง จะหยุดช่วงสั้นๆ ก่อนและหลังฤดูหนาว

บริเวณชิงะโคเก็น: เป็นบริเวณที่มีลิฟต์เก้าอี้และกอนโดลาจำนวนมากที่สุดในอุทยานโจชิเน็ตสึโคเก็น ซึ่งมากกว่า 50 แห่งที่ให้บริการที่ชิงะโคเก็นสกีรีสอร์ทในฤดูหนาว ในจำนวนนั้นคือ ‘กระเช้าลอยฟ้าฮิกาชิดาเตะยามะ’ เปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนตุลาคม โดยให้สิทธิ์เข้าถึงสวนพฤกษศาสตร์บนเทือกเขาแอลป์ ‘กระเช้าเก้าอี้ โยโกเตะยามะ’ เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนตุลาคม และสามารถอ้างว่าเป็นลิฟต์เก้าอี้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความสูงถึง 2,307 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

บริเวณนาเอบะ/คางุระ: เชื่อมต่อกันด้วย ‘กระเช้ากอนโดล่า’ มีความยาว 5.5 กม. เป็นหนึ่งในกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก กระเช้าลอยฟ้าที่เชื่อมระหว่างนาเอบะและคางุระในฤดูหนาวเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วง มีใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามที่สุดในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน การไปเยือนภูเขานาเอบะจึงควรเป็นหนึ่งในแผนการเดินทางสำหรับผู้มาเยือนเมืองยูซาวะที่อยู่ใกล้เคียง

บริเวณยูซาวะ*: ให้บริการโดยสถานีเอจิโกะ-ยูซาวะและรถไฟชินคันเซ็นโจเอ็ตสึที่วิ่งจากโตเกียว ยูซาวะเป็นเมืองน้ำพุร้อนเก่าแก่และเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติด้านตะวันตก ‘กระเช้าลอยฟ้ายูซาวะโคเก็น’ เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ให้สิทธิ์เข้าถึงเทือกเขายูซาวะพาโนราม่าพาร์ค สวนพฤกษศาสตร์อัลไพน์ และกิจกรรมต่างๆ เช่น ซิปไลน์ รถเลื่อนหิมะ และโกคาร์ท ร้านอาหารและเส้นทางเดินตั้งอยู่บนยอดเขา พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาโดยรอบ

บริเวณภูเขาทานิกาวะ: เป็นที่ตั้งของ ‘กระเช้าลอยฟ้าทานิกาวาดาเกะ’ ในช่วงนอกฤดูหนาวกรระเช้าลอยฟ้าจะเปิดให้บริการตั้งแต่เมษายน – พฤศจิกายน และไต่ขึ้นไปที่ความสูง 1,321 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เข้าถึงเส้นทางเดินป่าอันน่าอัศจรรย์บางสาย และในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามที่สุดบางส่วนของญี่ปุ่นตอนกลางในป่าโดยรอบ

*โปรดทราบว่ายูซาวะ ตั้งอยู่บริเวณรอบอุทยานแห่งชาติ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโจชิเน็ตสึโคเก็น

ปีนเขา & เส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น


shirane-hiking-trails-edit

สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสถานที่เดินป่าและเดินเล่นชิลๆ ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นตอนกลาง มีเส้นทางที่เหมาะสำหรับทุกระดับ ตั้งแต่การปีนเขาที่เชี่ยวชาญไปจนถึงการเดินสบายๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงปานกลาง การขึ้นมายังที่สูงสู่หุบเขาอัลไพน์และภูเขาของอุทยาน ช่วยให้คุณหนีอากาศอบอ้าวในฤดูร้อนได้ ยินดีต้อนรับการบรรเทาจากความร้อนและความชื้นของเมือง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินป่าและการเดินในโจชิเน็ตสึโคเกน โปรดดูหน้า ‘เส้นทางเดินป่าที่ดีที่สุดในนากาโนะ’ ของเรา

สถานที่พักแรมในหมู่บ้านน้ำพุร้อน


grand-phenix-okushiga

ผู้เยี่ยมชมโจชิเน็ตสึโคเก็น มีที่พักให้เลือกมากมายทั่วทั้งอุทยาน รวมไปถึงหมู่บ้านน้ำพุร้อนหลายแห่ง ซึ่งนับเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เมื่อต้องการวางแผนการเยี่ยมชมของคุณ เราขอแนะนำพื้นที่ต่อไปนี้:

ชิงะโคเก็นสกีรีสอร์ท / ที่ราบสูง

ใกล้เคียงกับชิงะโคเก็นสกีรีสอร์ท บริเวณนี้เข้าถึงได้ง่ายจากสถานีนากาโนะ และมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดเยี่ยมหลายแห่ง เช่น ภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ เรือกอนโดล่า และกระเช้าลอยฟ้าหลายลำ การเดินบนเทือกเขาแอลป์ที่ยอดเยี่ยม สัตว์ป่ามากมาย และแน่นอนว่า กิจกรรมการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น

grand_phenix_top_3

โฮเตล แกรนด์ ฟินิกซ์ ตั้งอยู่ในลานสกีโอคุชิกะ ของชิงะโคเก็น ให้บริการที่พักหรูหราพร้อมทางเข้าออกด้วยสกีภายในอุทยานแห่งชาติ เปิดตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง โรงแรมแห่งนี้อยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมสำหรับการสำรวจอุทยานแห่งชาติด้วยการเดินเท้า จักรยาน หรือรถยนต์ โฮเตลแกรนด์ฟินิกซ์ ผสมผสานสไตล์ป่าสนของยุโรปเข้ากับบริการแบบญี่ปุ่น เป็นทางเลือกที่พักในชิงะโคเก็นของเรา สำหรับรายการเพิ่มเติม ในบริเวณอุทยานแห่งชาติ โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘พื้นที่ชิงะโคเก็น’ ของเรา

ยามะโนะอุจิ / พื้นที่ลิงหิมะ

ประตูทางทิศตะวันตกสู่โจชิเน็ตสึโคเก็นอันมีชื่อเรียกว่า ยามะโนะอุจิ มีเมืองน้ำพุร้อนสามแห่ง ได้แก่ ยูดานากะออนเซ็น ชิบุออนเซ็น และคันบายาชิออนเซ็น* รวมถึง ‘เรียวกัง’ (เกสต์เฮาส์แบบดั้งเดิม) จำนวนมาก หลายๆ คนอาจมีบ่อน้ำพุร้อนของตัวเองและเสิร์ฟเมนู ‘ไคเซกิ’ แบบดั้งเดิม (หลายคอร์ส) โดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นตามฤดูกาล

senjukaku-banner-edit

เราขอแนะนำ โฮตารุเทย์วิลล่า และ โฮเตล เซ็นจูคาคุ โฮตารุเทย์วิลล่าตั้งอยู่ในคันบายาชิออนเซ็น เดินทางเพียงไม่กี่นาทีไปสู่อุทยานลิงหิมะ และยังอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึ และชิงะโคเก็น มีวิลล่าหรูส่วนตัว 2 หลัง พร้อมกับบ่อออนเซ็นส่วนตัว นี่อาจกลายเป็นไฮไลท์หนึ่งของการมาเยือนญี่ปุ่นของคุณ

โฮเตลเซ็นจูคาคุ ตั้งอยู่ในคันบายาชิออนเซ็น สามารถเดินไปยังสวนลิงจิโกคุดานิได้อย่างง่ายดาย และมอบการเข้าพักอย่างผ่อนคลายให้กับแขกที่หน้าประตูอุทยานแห่งชาติ เป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ญี่ปุ่นเซ็นจูคาคุ มีชื่อเสียงในด้านอาหารแบบ ‘ไคเซกิ’ น้ำพุร้อนหลายแห่ง และบริการแบบดั้งเดิม สำหรับรายการเพิ่มเติมในพื้นที่ โปรดดูในหน้าโรงแรม ‘ยามาโนะอุจิ – บ้านของลิงหิมะ’ ของเรา

มันซ่าออนเซ็น

มันซ่าออนเซ็น ซึ่งเป็นเมืองน้ำพุร้อนเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะ ดึงน้ำร้อนมาจากภูเขาไฟ มันซ่าออนเซ็นขึ้นชื่อในเรื่องน้ำที่มีสีสดใส มีฤทธิ์เป็นกรดและกำมะถัน ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคนแต่นักเดินทางบางคนจะชื่นชอบ ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ นี่คือภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งและมีเอกลักษณ์ โดยมีน้ำเป็นสีขาว สีฟ้าสดใส หรือสีเขียวสดใส หากต้องการรายชื่อที่พักในพื้นที่ โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณมันซ่าออนเซ็น’ ของเรา

manza-onsen-hot-spring

ชิมะออนเซ็น

ชิมะออนเซ็น ตั้งอยู่บนขอบด้านตะวันออกของอุทยาน เป็นหนึ่งในสี่เมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกุนมะ นักท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่สวยงามสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอันเงียบสงบในเมืองดั้งเดิมที่มีเสน่ห์แห่งนี้ แหล่งน้ำพุร้อนกว่าสี่สิบแหล่งหล่อเลี้ยงบ่อน้ำพุร้อนในเมืองหลายแห่ง ‘เรียวกัง’ (เกสท์เฮ้าส์แบบดั้งเดิม โรงแรมขนาดใหญ่ ห้องอาบน้ำสาธารณะ และบ่อน้ำแร่กระจายอยู่ทั่วเมือง สำหรับรายการที่พักในพื้นที่ โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณชิมะออนเซ็น’ ของเรา

shima-onsen-hot-spring

คุซัทสึออนเซ็น

คุซัทสึออนเซ็น เป็นหนึ่งในเมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นอีกหนึ่งในสี่หมู่บ้านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของกุนมะ คุซัทสึออนเซ็นตั้งอยู่บนที่สูงในอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น และดึงน้ำมาจากกิจกรรมความร้อนของภูเขาคุซัทสึ-ชิราเนะที่อยู่ใกล้เคียง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ‘ยูบุทาเกะ’ ซึ่งเป็น ‘ทุ่งน้ำร้อน’ แบบเปิดโล่งขนาดมหึมา เป็นพื้นที่ที่ให้น้ำร้อนไหลลงมาเพื่อพักให้เย็นตัวลง ก่อนที่จะถูกนำมาใช้เพื่อเติมห้องอาบน้ำในเกสต์เฮาส์หลายแห่งในเมือง คุซัทสึอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดคารุอิซาวะ และเป็นจุดที่ดีในการสำรวจอุทยานแห่งชาติ สำหรับรายชื่อที่พักในพื้นที่ โปรดดูหน้าโรงแรม ‘บริเวณคุซัทสึออนเซ็น’ ของเรา

kusatsu-onsen-yubatake

คารุอิซาวะ*

ประตูทางใต้สู่อุทยานแห่งชาติ คารุอิซาวะ ถือเป็นเมืองตากอากาศบนภูเขายอดนิยมที่มีโรงแรม ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งที่ยอดเยี่ยมมากมาย เข้าถึงได้ง่ายโดยใช้โฮคุริคุ ชินคันเซ็น จากโตเกียว การพักในคารุอิซาวะจะเพิ่มความหรูหราให้กับประสบการณ์ในอุทยานแห่งนี้ โดยอยู่ไม่ไกลจากภูเขาอาซามะและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ สำหรับรายชื่อที่พักในพื้นที่ โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณคารุอิซาวะ’ ของเรา

karuizawa

ยูซาวะ*

เมืองบ่อน้ำพุร้อนยูซาวะทำหน้าที่เป็นจุดเข้าทางทิศตะวันออกประจำอุทยานแห่งชาติ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังภูเขานาเอบะและภูเขาทานิกาวะได้อย่างง่ายดาย ทั้งสองแห่งสามารถเข้าถึงได้โดยใช้รถโดยสารสาธารณะจากสถานีเอจิโกะ-ยูซาวะ ยูซาว่าเป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งมี ‘เรียวกัง’ (เกสท์เฮาส์แบบดั้งเดิม) จำนวนมาก และโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีตัวเลือกมากมาย สำหรับรายชื่อที่พักในพื้นที่ โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘ย่านยูซาวะ’ ของเรา

yuzawa-garden-alpine-garden

*โปรดทราบ ยูดานากะออนเซ็น ชิบุออนเซ็น คันบายาชิออนเซ็น คารุอิซาว่า; และยูซาวะ ทั้งหมดตั้งอยู่บริเวณขอบอุทยานแห่งชาติ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโจชิเน็ตสึโคเก็น อย่างไรก็ตาม การที่เมืองแต่ละเมืองตั้งอยู่ใกล้กับโจชิเน็ตสึโคเก็นทำให้เข้าถึงได้ง่าย แต่ละเมืองมีที่พักให้เลือกมากมาย และเข้าถึงได้ง่ายโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสำรวจอุทยานแห่งชาติ

วิธีเดินทางไปยังโจชิเน็ตสึโคเก็น


shiga-kogen-yamanoeki-bus

เมื่อพิจารณาจากขนาดของอุทยานแห่งชาติ การวางแผนเยี่ยมชมรวมถึงวิธีเดินทางและการเคลื่อนที่อาจดูน่าสับสนเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงก็เข้าใจได้ง่าย ถ้าคุณแบ่งสวนสาธารณะออกตามภูมิภาคและจุดเข้าใช้งานหรือเมือง ได้เป็นสามแห่งต่อไปนี้*:

เข้าจากทิศตะวันตก: สถานีนากาโนะเป็นป้ายหยุดบนสายโฮคุริคุ ชินคันเซ็น ที่วิ่งจากโตเกียวไปยังคานาซาว่า  ซึ่งใช้เวลาขับรถเพียง 50 นาทีจากเชิงเขาของอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น พร้อมบริการรถบัสด่วนที่วิ่งจากสถานีไปยังสถานีภูเขาชิงะโคเก็น จากตรงนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนมาใช้บริการรถประจำทางท้องถิ่นที่วิ่งไปยังพื้นที่ต่างๆ ของอุทยานแห่งชาติได้ ระหว่างทางจากนากาโนะ คุณจะผ่านพื้นที่ยามาโนะอุจิและเมืองน้ำพุร้อนหลายแห่ง รวมถึงยูดานากะออนเซ็น ชิบุออนเซ็น และคันบายาชิออนเซ็น ยามาโนะอุจิตั้งอยู่ที่เชิงเขาของอุทยานแห่งชาติ เป็นประตูทางทิศตะวันตกสู่สวนสาธารณะที่กว้างขวางและเป็นจุดเข้าถึงที่ใกล้ที่สุดไปยังพื้นที่ต่างๆ รวมถึงสกีรีสอร์ทชิงะโคเก็น ที่ราบสูงชิงะโคเก็น และจุดเริ่มต้นทางทิศตะวันตกของเส้นทางคุซัทสึ ชิราเนะ โคเก็น

shiga-kogen-mountain-station

เข้ามาจากทางใต้: ป้ายหยุดบนสายโฮคุริคุ ชินคันเซ็น สถานีคารุอิซาว่า ทำให้คุณเข้าถึงอุทยานได้ง่าย และถือเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดในการไปยังคุซัทสึออนเซ็น, ภูเขาอาซามะ และอุทยานภูเขาไฟโอนิโอชิดะชิ และเส้นทางคุซัทสึ ชิราเนะ โคเก็น (สามารถไปยังยามาโนะอุจิได้ทางทิศตะวันตก)

เข้าใกล้จากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ: ป้ายหยุดบนสายโจเอ็ทสึ ชินคันเซ็น ที่วิ่งจากโตเกียวไปยังนีกาตะ สถานีเอจิโกะ-ยูซาวะเป็นจุดเชื่อมต่อที่ใกล้ที่สุด ภูเขานาเอบะ และภูเขาทานิกาวะ

*โปรดทราบ จุดเข้าใช้งาน/เมืองที่ระบุไว้ข้างต้น – ยูดานากะออนเซ็น ชิบุออนเซ็น และคันบายาชิออนเซ็น คารุอิซาวะ; และยูซาวะ – ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ในบริเวณขอบเขตของอุทยานแห่งชาติ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโจชิเน็ตสึโคเก็น อย่างไรก็ตาม การที่เมืองแต่ละเมืองตั้งอยู่ใกล้กับโจชิเน็ตสึโคเก็น ก็ทำให้เดินทางเข้าถึงได้ง่าย แต่ละเมืองมีที่พักให้เลือกมากมาย และทุกเมืองก็เข้าถึงได้ง่ายโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสำรวจอุทยานแห่งชาติ

ทัวร์และรถเหมา รอบๆ อุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น


asama-gunma

ตั้งอยู่ห่างจากบริษัทของเราที่อยู่ในจังหวัดนากาโนะ โดยใช้เวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมง ทางเรามีบริการทัวร์และบริการเช่าเหมาลำไปยังอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็นมากมาย ทั้งแบบส่วนตัวและแบบกลุ่ม ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะอยู่ในพื้นที่ใด เราก็สามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายและเพลิดเพลินไปกับภูมิภาคที่น่าทึ่งนี้ได้อย่างเต็มที่

หากต้องการดูไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเข้าร่วมทัวร์แบบหมู่คณะนี้ มีบริการรับจากสถานีนากาโนะและสถานีคารุอิซาวะ คุณสามารถเข้าร่วมได้อย่างง่ายดายแม้จะมาจากโตเกียวด้วยการนั่งรถไฟหัวกระสุนไปยังสถานีใดสถานีหนึ่ง เริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมทุ่งลาวาแห้งบนภูเขาอาซามะ จากนั้นจึงไปรับประทานอาหารกลางวันที่คุซัทสึออนเซ็น คุณจะสัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของพื้นที่ได้ชัดเจนตลอดทั้งวัน หลังจากผ่อนคลายสัก 2-3 ชั่วโมงในคุซัทสึออนเซ็น ทัวร์จะมุ่งหน้าไปยังจุดสุดท้าย – ภูเขาคุซัตสึ-ชิราเนะ เนื่องจากมีทางหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นและทิวทัศน์อันน่าทึ่ง เป็นที่น่าจดจำตลอดทั้งทัวร์

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสึโคเก็น คือ สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ ที่ซึ่งลิงแสมญี่ปุ่นลงแช่น้ำในบ่อน้ำอุ่นที่ถูกขุดขึ้นมาจากพื้นโลก ด้วยบริการรับส่งในเมืองนากาโนะ (และฮาคุบะในฤดูหนาว) ทัวร์นี้ทำให้คุณสามารถท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย เพื่อการเที่ยวชมพื้นที่นากาโนะ และยังสามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวโดยใช้รถไฟหัวกระสุนได้อีกด้วย ร่วมทานอาหารกลางวันในบ้านไร่อายุ 170 ปีที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามด้วยการเยี่ยมชมไฮไลท์หลักอย่างอุทยานลิงหิมะ โปรแกรมนี้ถือเป็นหนึ่งในทัวร์ยอดนิยมของเรา

ทัวร์นี้เปิดให้บริการในฤดูหนาว โดยจะพาแขกขึ้นไปยังพื้นที่สูงๆ ของชิงะโคเก็นเพื่อสนุกสนานกับการเล่นหิมะ ด้วยกิจกรรมทางหิมะหลายประเภท รวมไปถึงสิ่งของแปลกตา เช่น จักรยานหิมะ ทุกคนตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ก็สามารถมีช่วงเวลาดีๆ ในทัวร์นี้ได้ หลังจากรับประทานอาหารกลางวันบนภูเขาแล้ว แขกจะถูกพาไปที่สวนลิงหิมะในช่วงบ่ายร่วมกับสัตว์ขนฟูที่มีชื่อเสียงที่สุดของนากาโนะ

Charter-Bus

หากคุณต้องการบริการรับส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่คุณเลือก บริการเช่าเหมาลำส่วนตัวของเราจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณ ด้วยบริการแบบรับส่งถึงหน้าบ้าน เราจะเดินทางไปยังพื้นที่ที่คุณอยู่ และส่งคุณไปยังที่ที่คุณต้องการเดินทางไป มีประโยชน์สำหรับการเดินทางจาก A ไป B หรือสำหรับการเดินทางไปยังจุดที่เลือกเอาไว้ เพียงแจ้งให้เราทราบว่าต้องการจะไปเยี่ยมชมที่ไหน ในกลุ่มของคุณมีกี่คน แล้วเราจะดำเนินการจัดทำแผนการเดินทางที่สามารถกำหนดได้อย่างอิสระเพื่อการเดินทางของคุณ โปรด คลิกที่นี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเริ่มต้นการเสนอราคา

สอบถาม

เหมาลำ

ทัวร์

ข้อเสนอสกี