20 สิ่งน่าทำรอบๆ นิกโก้ & สถานที่พักแรม
ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก้ได้รับสถานะมรดกโลกในปี 1999 ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สวยงามและได้รับความนิยมมากที่สุดของญี่ปุ่น ขณะเดียวกันบริเวณนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามภายในอุทยานแห่งชาตินิกโก้ พร้อมด้วยเมืองน้ำพุร้อนหลายแห่งที่เป็นสถานที่หลบหนีและผ่อนคลาย โดยในหน้าเว็บไซต์นี้คุณจะพบข้อมูลต่อไปนี้:
— 20 กิจกรรมยอดเยี่ยมในและรอบๆ นิโกะ
เดินทางเพียง 2 ชั่วโมงจากโตเกียว คุณก็จะสามารถท่องเที่ยวในนิกโกได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับจากเมืองหลวง หรือแบบค้างคืนหลายวัน เพลิดเพลินไปกับศาลเจ้าและวัดต่างๆ ได้ทั้งหมดภายในหนึ่งวัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ใช้เวลาของคุณในนิกโกให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราขอแนะนำให้ขยายเวลาการเข้าพักของคุณออกไป และรวมจุดหมายปลายทางและกิจกรรมต่างๆ ไว้ในแผนการเดินทางของคุณ ทั้งทะเลสาบชูเซ็นจิโกะและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในอุทยานแห่งชาตินิกโก้ อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าและวัด และสามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะดีที่สุดในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีในนิกโก้จะแสดงวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
หากอ่านหน้านี้จบแล้ว คุณรู้สึกสนใจจะไปเยี่ยมชมนิกโก้ ขอเชิญชวนให้เข้าร่วม ‘ทัวร์ 1 วัน: สำรวจมรดกโลกและอุทยานแห่งชาตินิกโก้’ ของเรา!
ทัวร์ 1 วัน
ทัวร์ 1 วัน: สำรวจมรดกโลกและอุทยานแห่งชาติของนิกโก้ | |
| |
ระยะเวลา | เมษยน – ตุลาคม |
เวลา | 08:40 – 19:15 |
สถานที่นัดพบ | หน้าห้างสรรพสินค้าอาซากุสะ เอกิมิเสะ |
ราคาผู้ใหญ่ | ¥24,900 |
ราคาเด็ก | ¥18,900 |
นิกโก้อยู่ที่ไหน?
นิกโก้เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดโทจิกิ ห่างจากโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 150 กม. / 2.5 – 3 ชั่วโมง นิกโกมีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องศาลเจ้าชินโตและสุสานที่โดดเด่น ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงโทคุกาวะ อิเอยาสึ ผู้ปกครองผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนโทคุกาวะ รวมถึงศาลเจ้าและวัดนิกโกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1999 ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี นิกโกและภูมิภาคโดยรอบยังมีเมือง ‘ออนเซ็น’ (บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ) และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาตินิกโก้อีกด้วย สำหรับผู้มาเยือนที่มุ่งหน้าไปยังนิกโก้จากโตเกียว สามารถเดินทางไปถึงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยบริการรถไฟหลากหลายที่เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองสถานที่ ใช้เวลาเดินทางเร็วที่สุดเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง โดยรถไฟชินคันเซ็นโทโฮคุ ตรงไปยังสถานีอุสึโนมิยะ จากนั้นจึงเปลี่ยนขบวนไปยัง JR ท้องถิ่น สายนิกโก้. สำหรับรายละเอียดทั้งหมด โปรดดูที่หัวข้อ ‘การเดินทางไปและรอบๆ นิกโก้’ ด้านล่าง
20 กิจกรรมยอดเยี่ยมในและรอบๆ นิโกะ
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มายังญีปุ่่น นิกโก้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ ‘ต้องไปเยี่ยมชม’ เนื่องจากศาลเจ้าและวัดในศตวรรษที่ 17 ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่สวยงามที่สุดในประเทศ ศาลเจ้านิกโก้และกลุ่มวัดนิกโก้ประกอบด้วยอาคารทางศาสนาหนึ่งร้อยสามหลังที่กระจายอยู่ทั่วกลุ่มศาลเจ้าชินโต ‘โทโชกุ’ และ ‘ฟุตาระซัน’ และกลุ่มวัดพุทธ ‘รินโนจิ’ ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม อาคารหลักที่น่าสนใจตั้งอยู่ในระยะไม่กี่กิโลเมตร ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงด้วยการเดินเท้า หรือใช้บริการรถประจำทางที่วิ่งวนรอบสถานที่หลักเป็นประจำ เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูกาลจะเน้นย้ำถึงความงดงามในลักษณะที่แตกต่างกัน แม้ว่าศาลเจ้าและวัดจะดึงดูดนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มายังนิกโก้ แต่เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว คุณจะค้นพบภูมิภาคที่สวยงามซึ่งมีภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ รวมถึงน้ำตก ช่องเขา เส้นทางเดินป่า และเมืองน้ำพุร้อนที่คุ้มค่าแก่การสละเวลาเพลิดเพลินเป็นเวลาหลายวัน ต่อไปนี้คือกิจกรรมและไฮไลท์ต่างๆ ที่เราอยากแนะนำเมื่อมาเที่ยวที่นิกโก้:
1 / ศาลเจ้านิกโก้ โทโช-กุ / ตลอดทั้งปี
ศาลเจ้า ‘นิกโก้ โทโช-กุ’ (日光東宮) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ โทคุกาวะ อิเอยาสุ ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนโทคุกาวะ ซึ่งปกครองญี่ปุ่นตลอดช่วงสมัยเอโดะอันโด่งดัง (1603-1868) ร่วมกับ ‘ฟุตาระซัน’ และ ‘รินโนจิ’ ศาลเจ้าโทโช-กุ เป็นหนึ่งในสามบริเวณศาลเจ้าและวัด ที่ประกอบขึ้นเป็นบริเวณนิกโก้ทั้งหมด จากโครงสร้างทั้งหมด 103 หลังของอาคารนี้ มี 42 หลังถูกพบภายในโทโช-กุ รวมถึงอาคาร 8 หลังที่ได้รับสถานะเป็น “สมบัติของชาติ” และอีก 3 หลังที่ถือว่าเป็น “ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ”
โทคุกาวะ อิเอยาสึ ประดิษฐานอยู่ที่โทโช-กุในฐานะเทพที่เรียกว่า ‘โทโช ไดกอนเกน หรือ ‘เทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแสงที่ส่องทางทิศตะวันออก’ เดิมทีกลุ่มอาคารนี้มีลักษณะธรรมดา ได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ก็ถูกต่อเติมอย่างหรูหราโดยโชกุนโทคุกาวะคนที่ 3 และโทคุกาวะ อิเอมิตสึ หลานชายของอิเอยาสึในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 17 และกลุ่มอาคารที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินได้ในปัจจุบัน
อาคารที่โดดเด่นกว่าของโทโช-กุ ได้แก่ ประตู ‘โยเมอิม่อน’, ‘คาราม่อน’ และ ‘โฮจินโด’ เจดีย์ห้าชั้น, ‘คางุระ-เด็น’ และ ‘คามิจินโกะ’ รวมถึงภาพของลิงที่มีชื่อเสียงแห่งโทโช-กุ “ไม่มอง ไม่ฟัง ไม่พูด” ซึ่งสามารถเข้าดูได้ในบริเวณของศาลเจ้าเก่าดั้งเดิม เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 (เปิดถึง 16:00 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม) ค่าเข้าชม 1,300 เยนสำหรับศาลเจ้า 1,000 เยนสำหรับพิพิธภัณฑ์ หรือ 2,100 เยนสำหรับตั๋วศาลเจ้ารวมกับพิพิธภัณฑ์ เวลาเข้าชมรอบสุดท้ายคือ 30 นาทีก่อนปิด
2 / วัดไทยูอิน / ตลอดทั้งปี
‘ไทยูอิน’ (大猷院) ตั้งอยู่ห่างจากโทโช-กุ ประมาณ 500 เมตร เป็นสุสานของโชกุนโทคุกาวะคนที่ 3 ชื่อโทคุกาวะ อิเอมิตสึ การขยายอาคารเดิมของอิเอมิตสึเพื่ออุทิศให้กับคุณปู่นี้เอง ที่ทำให้เราได้รับสมบัติทางวัฒนธรรมที่เรายังคงสามารถเพลิดเพลินได้จนถึงทุกวันนี้ วัดไทยูอินได้รับการออกแบบมาอย่างหรูหรา แต่ให้ความรู้สึกสงยเงียบมากกว่าโทโช-กุ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อปู่ของเขา
ไทยูอินผสมผสานโครงสร้างและประเพณีของชินโตและพุทธศาสนา ซึ่งสะท้อนถึงประเพณีการออกแบบที่เห็นได้ทั่วบริเวณ นิกโก้ โดยมีประตู ‘นิโอม่อน’ และ ‘นิเตม่อน’, ‘ไฮเด็น’, ‘ฮอนเด็น’ และอาคารอื่น ๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตทั้งหมด เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:00 (จนถึง 16:00 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม) ค่าเข้าชมไทยูอิน มีค่าใช้จ่าย 500 เยนหรือ 900 เยนสำหรับไทยูอิน และรินโน-จิ/ซันบุตสึโด รอบการเข้าชมครั้งสุดท้ายคือ 30 นาทีก่อนปิด
3 / ศาลเจ้าฟุตาระซัน / ตลอดทั้งปี
ศาลเจ้า ‘ฟุตาระซัน’ (二荒神社) ตั้งอยู่ระหว่างไทยูอิน และโทโช-กุ กำเนิดขึ้นมาก่อนโครงสร้างที่หรูหราและซับซ้อนหลังอื่นๆ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าชินโตแห่งนิกโก้ อันเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์สามลูก ได้แก่ ภูเขานันไต ภูเขาเนียวโฮ และภูเขาทาโร แม้ว่าอาจจะงดงามน้อยกว่าไทยูอินและโทโชกุ แต่ฟุตาระซันก็เป็นส่วนสำคัญของสิ่งที่ซับซ้อนโดยรวม พูดถึงความสำคัญของการบูชาธรรมชาติในศาสนาชินโต ที่ซึ่งแล้วขยายไปถึงประมาณ 3,400 เฮกตาร์ โดยพาดผ่านภูเขาที่ทอดตัวอยู่ ภายในอุทยานแห่งชาตินิกโก้
เปิดทุกวันตั้งแต่ 08:00 – 17:00 (เปิดจนถึง 16:00 น. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม) โดยเปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 30 นาที สามารถเข้าชมได้ฟรี ยกเว้นพื้นที่เล็กๆ อื่นของศาลเจ้า ที่มีค่าใช้จ่าย 300 เยน
4 / วัดรินโน-จิ / ตลอดทั้งปี
รินโนจิ (輪王寺) ถือเป็นองค์ประกอบหลักขั้นสุดท้ายของย่านนิกโก้ วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 8 ถือเป็นวัดพุทธที่สำคัญที่สุดของนิกโก้ ซึ่งอุทิศให้กับ ‘พระอมิตาเนียวไร’ (พระพุทธรูปทางประวัติศาสตร์) และพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมสองรูปแบบ ได้แก่ ‘เซนจู-คันนอน’ และ ‘บาโตะ-คันนอน’ ในอาคารหลักของวัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ซันบุตสึโดะ’ แต่ละองค์ถือเป็นการแสดงทางพุทธศาสนาของหนึ่งในสามเทพแห่งภูเขาที่ประดิษฐานอยู่ที่ฟุตาระซัน เป้นเครื่องหมายตอกย้ำระบบความศรัทธาที่เชื่อมโยงกันของพุทธศาสนาและศาสนาชินโต
รอบๆ ซันบุตสึโดะ บ้านสมบัติของวัดและสวนแบบดั้งเดิมนั้นคุ้มค่าแก่การสำรวจ โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามที่สุด เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:00 (เปิดถึง 16:00 น. ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม) ค่าเข้าชมซันบุตสึโด มีค่าใช้จ่าย 400 เยน และ 900 เยน สำหรับตั๋วรวมซันบุตสึโดและไทยูอิน และ 300 เยนสำหรับบ้านเก็บสมบัติและสวน รอบเข้าชมครั้งสุดท้ายคือ 30 นาทีก่อนปิด
5 / สะพานชินเคียว / ตลอดทั้งปี
สะพาน ‘ชินเคียว’ (神橋) สร้างขึ้นในปี 1636 และได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างกว้างขวางในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ถึงต้นทศวรรษ 2000 สร้างเป็นทางข้ามแม่น้ำสายเล็กไปยังศาลเจ้าและกลุ่มวัด ถือเป็นหนึ่งในสะพานประวัติศาสตร์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของนิกโก้ สะพานนี้เป็นของศาลเจ้าฟุตาระซัน เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08:30 – 16:00 ตั้งแต่เดือนเมษายน – ตุลาคม และ 09:30 – 15:00 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ค่าเข้าชม 300 เยน
6 / หุบเหวคันมังกะฟุจิ / ตลอดทั้งปี
ใช้เวลาเดินเพียงไม่นานจากศาลเจ้าและกลุ่มวัด – ประมาณ 20 นาที ‘เหว คันมังกะฟูจิ’ เป็นหุบเขาเล็กๆ ที่ทอดยาวหลายร้อยเมตรเลียบแม่น้ำไดยะ เส้นทางเดินผ่านช่องเขาเรียงรายไปด้วยรูปปั้นหิน ‘จิโซ’ ประมาณ 70 รูป – พระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธ – ผู้ตรัสรู้ – พร้อมหมวกสีแดงและผ้ากันเปื้อนอันโดดเด่น สามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปรูปปั้นและเส้นทางเดินได้ตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวยงามในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เพราะจะมีใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงล้อมรอบรูปปั้นให้มีสีสันมากมาย
7 / คฤหาสน์ทาโมะซาวะ / ตลอดทั้งปี
วังหลวงทาโมซาวะ ก้าวไปข้างหน้าในประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงยุคเมจิ (พ.ศ. 2411-2455) เป็นที่ประทับของตระกูลโทคุกาวะ คฤหาสน์กว้างขวางเดิมตั้งอยู่ในโตเกียว ประกอบด้วยห้องพัก 106 ห้อง ที่ผสมผสานหลักการออกแบบและสถาปัตยกรรมของเอโดะ เมจิ และตะวันตก ตัวคฤหาสน์ได้รับการดูแลรักษาอย่างสวยงามและถึงแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็มีพื้นที่เพียงประมาณหนึ่งในสามของพื้นที่เดิมเท่านั้น วิลล่ารายล้อมไปด้วยสวนแบบดั้งเดิม ทำให้เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน คฤหาสน์ทาโมะซาวะ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 โดยเปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.00 น. ยกเว้นวันอังคาร (หรือวันถัดไปหากวันอังคารเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์) และจะปิดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม – 1 มกราคม มีค่าเข้าชม 600 เยน
8 / น้ำตกคิริฟุริ / ตลอดทั้งปี
น้ำตกคิริฟูริใช้เวลาขับรถประมาณ 10 นาทีจากศาลเจ้าและวัด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์แห่งแรกในพื้นที่โดยรอบ คิริฟุริแปลว่า “หมอกตก” เป็นน้ำตก 2 ชั้นที่มีความสูง 75 เมตร สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่จะดีที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ภาพน้ำตกที่ตกลงมาและผ่านใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่รอบๆ นั้นงดงามเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงสามารถเพลิดเพลินได้จากจุดชมวิวที่อยู่เหนือน้ำตก คุณสามารถเดินทางมาน้ำตกแห่งนี้ได้ตลอดปีด้วยรถบัสจากสถานี JR นิกโก้และสถานีโทบุนิกโก้ ตั้งแต่เดือนเมษายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน เพียงนั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังคิริฟุอิ โคเก็น และลงที่ป้ายรถบัสคิริฟุริโนะทากิ รถบัสให้บริการประมาณชั่วโมงละครั้ง การเดินทางใช้เวลาประมาณ 10 นาทีและมีค่าใช้จ่าย 340 เยนสำหรับเที่ยวเดียว
9 / น้ำตกเคกอน / ตลอดทั้งปี
น้ำตกเคกอน อยู่ห่างจากศาลเจ้าและวัดไปในทิศทางตรงกันข้ามกับน้ำตกคิริฟุริ โดยใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาที ด้วยความสูง 100 เมตร ‘เคกอน-โนะ-ทากิ’ ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น น้ำตกแห่งนี้ได้รับน้ำจากทะเลสาบชูเซ็นจิอันอุดมสมบูรณ์ เป็นภาพที่น่าประทับใจซึ่งสามารถเพลิดเพลินได้จากจุดชมวิวหลายแห่ง รวมถึงหอดูดาวอาเคจิไดระ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยกระเช้าลอยฟ้าอาเคจิไดระ – ดูรายละเอียดด้านล่าง คุณสามารถไปถึงน้ำตกแห่งนี้ได้ด้วยการเดินเท้าจากสถานีขนส่ง ชูเซ็นจิโกะออนเซ็น ซึ่งใช้เวลานั่งรถบัส 50 นาที / 1,150 เยนจากสถานี JR นิกโก้ หรือสถานีโทบุ-นิกโก้
10 / ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ และชูเซ็นจิโกะออนเซ็น / ตลอดทั้งปี
ตั้งอยู่ที่ตีนเขานันไต แต่อยู่เหนือเมืองนิกโก้ ‘ชูเซ็นจิโกะ’ (ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ) ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้วในตอนที่ภูเขาไฟระเบิด ชายฝั่งของทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยป่าไม้เป็นส่วนใหญ่ โดยได้รับการพัฒนาเพียงเล็กน้อย ยกเว้นเมืองน้ำพุร้อนเล็กๆ ที่ชื่อว่าชูเซ็นจิออนเซ็นทางฝั่งตะวันออกของทะเลสาบ โดยอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าและกลุ่มวัด ชูเซ็นจิโกะตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 1,270 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาศเย็นสบายที่สามารถสัมผัสได้ในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่นของปี รวมถึงมีการล่องเรือให้บริการในทะเลสาบตั้งแต่เดือนเมษายน – พฤศจิกายน ชูเซ็นจิออนเซ็นเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีที่พักหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเกสต์เฮาส์แบบดั้งเดิมหรือโรงแรมขนาดใหญ่ โดยปกติจะมี ‘ออนเซ็น’ (น้ำพุร้อนธรรมชาติ) ในโรงแรมให้แขกได้ใช้บริการ หากต้องการไปถึงทะเลสาบ ให้นั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังป้ายจูเซ็นจิออนเซ็น จากสถานี JR นิกโก้ หรือโทบุ-นิกโก้ ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที / 1,150 เยน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ‘ที่พักในและรอบๆ นิกโก้ ด้านล่าง
11 / วัดจูเซ็น-จิ / ตลอดทั้งปี
สำหรับผู้มาเยือนที่เดินทางไปยังทะเลสาบจูเซ็นจิโกะ และไม่ได้สัมผัสประสบการ๊์เยี่ยมชมวัดอันเป็นเอกลักษณ์ของนิกโก้ วัดชูเซ็นจิซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบเบื้องหน้าภูเขานันไต การเยี่ยมชมที่วัดแห่งนี้จะทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงาม โดยมีทะเลสาบและภูเขาเป็นฉากหลัง รวมถึงมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมอันโดดเด่นซึ่งแกะสลักจากต้นไม้ที่ยังคงหยั่งรากลึกลงไปในพื้นดิน วัดนี้อยู่ห่างจากสถานีขนส่งชูเซ็นจิโกะออนเซ็น โดยใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 น. และมีเวลาปิดแตกต่างกันไปตลอดทั้งปี โดยตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม จะปิดในเวลา 17:00 น. เดือนพฤศจิกายนปิดเวลา 16:00 น. เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ปิดเวลา 15:30 น.และในเดือนมีนาคมจะปิดเวลา 16:00 น. มีค่าเข้าชม 500 เยน
12 / ฮันเก็ตสึยามะ / ตลอดทั้งปี
ภูเขาฮันเก็ตสึ หรือ “ฮันเก็ตสึยามะ” ตั้งตระหง่านเหนือชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจูเซ็นจิโกะ มาพร้อมทิวทัศน์มุมกว้างของภูมิทัศน์โดยรอบของโอคุ-นิกโก้ ซึ่งสามารถเดินไปถึงได้ด้วยการเดินเท้าหรือทางถนน เส้นทางที่ทอดจากทะเลสาบขึ้นไปบนภูเขาและให้เข้าถึงหอสังเกตการณ์จูเซ็นจิโกะ และฮันเก็ตาึยามะ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะขึ้นรถบัสจากจูเซ็นจิโกะออนเซ็น – 20 นาที / 530 เยน เที่ยวเดียว – ไปยังที่จอดรถที่สูงที่สุด แล้วจึงเดินไปตามส่วนที่เหลือตามทางไปยังจุดชมวิว – ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที
13 / กระเช้าลอยฟ้าอาเคจิดาระ / ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะจากเมืองนิกโก้ จะต้องเดินทางผ่านถนนคดเคี้ยวอิโรฮาซากะ ก่อนไปถึงทะเลสาบ ถนนจะไปถึงที่ราบสูงอาเคจิไดระ ซึ่งคุณสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าอาเคจิไดระไปยังจุดชมวิวที่ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาที เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบชูเซ็นจิโกะและน้ำตกเคกอน รถกระเช้าให้บริการตั้งแต่เวลา 09:00 – 15:30 ทุกวันตลอดทั้งปี และมีค่าใช้จ่าย 600 เยนสำหรับเที่ยวเดียว และ 1,000 เยนสำหรับไปกลับ ตั้งแต่เดือนเมษายน – พฤศจิกายน คุณสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวจากทะเลสาบได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มีเส้นทางเพิ่มเติมที่เชื่อมต่อกับฮังเก็ตสึยามะ
14 / น้ำตกริวซุ / ตลอดทั้งปี
น้ำตกริวสุซึ่งเป็นน้ำตกที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของนิกโก้ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ ริมแม่น้ำยูกาวะ น้ำตกแห่งนี้รายล้อมไปด้วยป่าหนาทึบและไหลลดหลั่นผ่านภูมิทัศน์ที่สวยงามและเหมาะแก่การถ่ายรูปมากที่สุดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ริวซุสามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปีและไม่มีค่าใช้จ่าย หากต้องการไปถึงน้ำตก มีรถบัสวิ่งจากสถานี JR นิกโก้ และสถานีโทบุ-นิกโก้ โดยใช้เวลาประมาณ 60 นาที / 1,450 เยนเที่ยวเดียว เพียงนั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังยูโมโตะออนเซ็น และลงที่ป้ายรถบัสริวสุโนะทากิ
15 / เข้าพักที่นิกโก้-ยูโมโตะออนเซ็น / ตลอดทั้งปี
ห่างจากน้ำตกอีก 10 นาที นิกโก้-ยูโมโตะออนเซ็นก็เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบยูโนโกะและอยู่ภายในอุทยานแห่งชาตินิกโก้ แม้ว่าเมืองนี้จะเล็ก แต่ก็มีที่พักให้เลือกมากมายพร้อมบ่อน้ำพุร้อนในตัว โดยสามารถเข้าถึงเส้นทางเดินป่าได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ – ฤดูใบไม้ร่วง มีลานสกีนิกโก้ ยูโมโตะ ออนเซ็นในฤดูหนาว พร้อมน้ำที่มีกำมะถันสูงมีสีขาวนวลซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณที่ดีต่อผิว แหล่งน้ำตั้งอยู่ทางเหนือของใจกลางเมือง ในพื้นที่ที่เรียกว่าหนองน้ำยูโนไดระ โดยมีวัดพุทธออนเซ็นจิยืนหยัดเพื่ออุทิศตนเพื่อพรตามธรรมชาติของเมือง หากต้องการเดินทางไปยังยูโมโตะออนเซ็น ก็มีรถประจำทางวิ่งจากสถานี JR นิกโก้ และสถานีโทบุ-นิกโก้ โดยใช้เวลาประมาณ 80 นาที / 1,470 เยนต่อเที่ยว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู ‘ที่พักในและรอบๆ นิกโก้’ ด้านล่าง
16 / ปีนเขานิกโก้-ชิราเนะ / ดีที่สุดช่วง: มิถุนายน – ตุลาคม
ภูเขานิกโก้-ชิราเนะ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคนี้ของญี่ปุ่น โดยมีความสูงถึง 2,578 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเข้าถึงได้โดยใช้เส้นทางเดินป่าที่น่ารื่นรมย์เริ่มต้นที่ยูโมโตะออนเซ็นและจุดเริ่มต้นเส้นทางอื่นๆ หากต้องการเดินป่าจากยูโมโตะออนเซ็น ให้มุ่งหน้าไปที่ลานสกีนิกโก้ ยูโมโตะ ออนเซ็น ซึ่งจะมีจุดเริ่มต้นที่มีป้ายบอกทางเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างชัดเจนว่า ‘前白根山’ (มาเอะ-ชิราเนะยามะ) และ ‘奥白根山’ (โอคุ-ชิราเนะยามะ) การเดินป่าใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อไปถึงยอดเขาตอนล่างของมาเอะ-ชิราเนะ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปอีกประมาณ 90 นาทีสู่ยอดเขาที่สูงขึ้นของโอคุ-ชิราเนะ มีความสูงในแนวตั้งประมาณ 1,300 เมตร และสามารถปีนเล่นได้หลายจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีสมรรถภาพร่างกายที่สูงพอสมควร คุณควรเผื่อเวลาไว้ 8-9 ชั่วโมงสำหรับการเดินทางไปกลับ
17 / พิพิธภัณฑ์นิกโก้ โทโชกุ / ตลอดทั้งปี
หลังจากเยี่ยมชมศาลเจ้าโทโชกุอันน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ลองแวะไปที่พิพิธภัณฑ์นิกโก้ โทโชกุซึ่งอยู่ติดกับศาลเจ้า ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถทำกิจกรรมทั้งสองอย่างได้อย่างต่อเนื่อง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดทำการในปี 2015 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 400 ปีการเสียชีวิตของอิเอยาสึ ภายในมีคอลเล็กชั่นข้าวของส่วนตัวของอิเอยาสึมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดเกราะ ดาบ และจดหมาย ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์อยู่ที่ 600 เยน สำหรับเด็ก และ 1,000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ หากคุณต้องการเข้าชมทั้งศาลเจ้าและพิพิธภัณฑ์ คุณสามารถซื้อตั๋วรวมสำหรับเข้าชมทั้งสองแห่งได้ในราคา 2,400 เยน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีคาเฟ่สุดวิเศษ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวายในการเที่ยวชมพื้นที่มรดกนิกโก้!
18 / เอโดะวันเดอร์แลนด์ / ตลอดทั้งปี
เอโดะวันเดอร์แลนด์ นิกโก้ เอโดมุระ ตั้งอยู่ห่างจากศาลเจ้าและวัดนิกโก้ประมาณ 15 กม. สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองยุดสมัยเอโดะของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1603-1868) ในช่วงเวลานั้นประเทศนี้ถือว่าได้มาถึงจุดสูงสุดทางวัฒนธรรมและศิลปะ และเป็นที่ซึ่งศาลเจ้าแห่งนิกโก้ได้ถูกสร้างขึ้น เมืองจำลองแห่งนี้แบ่งออกเป็นห้าพื้นที่ ได้แก่ ย่านการค้า เมืองไปรษณีย์ ทางหลวง บ้านซามูไร และหมู่บ้านนินจา โดยแต่ละพื้นที่ได้รับการจัดแสดงอย่างสวยงามผ่านการจำลองทิวทัศน์ท้องถนนในสมัยเอโดะพร้อมด้วยชีวิตประจำวันอย่างสมจริง รวมถึงการที่ชาวเมืองสวมชุดย้อนยุคอาศัยอยู่ ประสบการณ์การเยี่ยมชมเมืองจำลอง มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีการโต้ตอบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีกิจกรรมมากมายให้เลือก เช่น โซนสวนสนุก โรงละคร ร้านอาหาร และการแต่งชุดญี่ปุ่นแบบย้อนยุค เอโดะวันเดอร์แลนด์เปิดทุกวัน ยกเว้นวันพุธ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดโรงเรียน นอกจากนั้นจะเปิดทุกวัน และปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 8 – 21 ธันวาคม ค่าเข้าชมอยู่ที่ 4,800 เยน
19 / นิกโก้พาส / ตลอดทั้งปี
นิกโก้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลิน! อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งกระจายตัวกัน และต้องใช้รถบัสในการเดินทางภายในระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้การเดินทางไปนิกโก้ของคุณสนุกสนานและราบรื่นยิ่งขึ้น ทำไมไม่ลองซื้อตั๋วนิกโก้ดูล่ะ! ตั๋วนิกโก้เป็นของบริษัทรถไฟโทบุ ซึ่งนำเสนอตั๋วสองประเภทที่แตกต่างกันให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้คุณมีโอกาสเพลิดเพลินกับนิกโก้ได้อย่างเต็มที่ ตั๋วทั้งสองแบบรวมค่าเดินทางไป-กลับด้วยรถไฟจากสถานีโทบุอาซากุสะไปยังสถานีโทบุนิกโก้แล้ว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงค่าโดยสารพื้นฐานสำหรับรถไฟซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเดินทางถึงนิกโก้ ดังนั้น นอกเหนือจากตั๋วนิกโก้แล้ว เราขอแนะนำให้คุณซื้อตั๋วแยกต่างหากสำหรับรถไฟด่วนพิเศษในราคา 3,300 เยน ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที ก็ถึงนิกโก้แล้ว!
ทั้งสองพาส ยังรวมการโดยสารรถบัสชมเมืองแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว เพื่อให้คุณเที่ยวรอบนิกโก้ได้อย่างสบายใจ! นอกจากนี้ยังสามารถรับส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งได้ เมื่อแสดงบัตรของคุณ คุณสามารถซื้อ ‘พาสผ่านบริเวณมรดกของนิกโก้’ ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้ได้ 2 วัน เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดภายในเขตมรดก รวมถึงศาลเจ้าและวัดที่มีชื่อเสียงทั้งหมด ตลอดจนทาโมะซาวะ วิลล่า, เหวคันมังกะฟุจิ และอื่นๆ อีกมากมาย บัตรพาสมรดก มีราคา 2,120 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 630 เยนสำหรับเด็ก คุณยังสามารถซื้อ ‘พาสทุกบริเวณของนิกโก้’ ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้ได้ 4 วัน เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในนิกโก้ ไม่ใช่แค่เฉพาะเขตมรดกเท่านั้น ซึ่งรวมถึงพื้นที่เพิ่มเติม เช่นคินุกาวะออนเซ็น และทะเลสาบชูเซ็นจิ บัตรพาสทุกพื้นที่นี้ มีราคา 4,780 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 1,330 เยนสำหรับเด็ก ทัวร์ 1 วันของเรา: สำรวจมรดกโลกและอุทยานแห่งชาตินิกโก้ รวมถึงพาสบริเวณมรดก และตั๋วรถไฟด่วนจำกัด เราจะเป็นผู้ช่วยดูแลการจอง และการจัดการด้านการเดินทางทั้งหมดให้กับคุณ
20 / ช่องเขาชิโอบาระ / ตลอดทั้งปี
สิ่งที่อยู่รอบๆ คือช่องเขาชิโอบาระที่สวยงาม ซึ่งเข้าถึงได้โดยใช้เส้นทางเดิน 3 เส้นทางจากชิโอบาระออนเซ็น เส้นทางนี้มีความยาวแตกต่างกันไป และจะพาคุณไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยน้ำตกประมาณร้อยแห่ง พร้อมด้วยทิวทัศน์สีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่ตระการตาในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน
สถานที่พักแรมบริเวณนิกโก้
รายชื่อมรดกโลกของศาลเจ้าและวัดนิกโก้ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี ด้วยเหตุนี้ จึงมีที่พักมากมายให้เลือกในใจกลางเมืองนิกโก้ เช่นเดียวกับพื้นที่โดยรอบและเมืองน้ำพุร้อน เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง บริเวณนี้จึงถูกใช้เป็นสถานที่หลีกหนีจากความร้อนชื้นในฤดูร้อนของโตเกียวมาอย่างยาวนาน และจนถึงทุกวันนี้ นิกโก้ก็มีโรงแรมและที่พักอื่นๆ ที่เก่าแก่และดีที่สุดในสมัยเมจิ ในการจะเลือกพักที่ดีที่สุดในนิกโก้ เรามาดูกันที่บริเวณใกล้กับศาลเจ้าและวัดมากที่สุดก่อน หากจะเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาตินิกโก้และบริเวณโดยรอบ โดยเริ่มจาก:
บริเวณสถานีนิกโก้
เมืองนิกโก้ มีศูนย์กลางอยู่รอบสถานีรถไฟที่อยู่ติดกันของ JR นิกโก้ และโทบุ-นิกโก้ ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ห่างจากสะพานชินเคียวและจุดเริ่มต้นของศาลเจ้ากับวัด โดยใช้เวลาเดินไม่เกิน 20 นาที หากใช้บริการรถประจำทางหรือแท็กซี่ การเดินทางไปบริเวณวัดจะใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีจากสถานี / พื้นที่ส่วนกลางของเมืองนิกโก้ ทำให้ถือเป็นพื้นที่ที่สะดวกที่สุดในการเข้าพัก บริเวณเมืองมีที่พักให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โรงแรมเก่าแก่ ที่พักระดับสูง ไปจนถึงเกสต์เฮาส์ขนาดเล็กที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัว รวมถึงที่พักราคาประหยัด ร้านอาหารส่วนใหญ่ในบริเวณนี้เปิดเฉพาะช่วงกลางวัน โดยส่วนใหญ่จะปิดตั้งแต่เวลา 18.00 น. ด้วยเหตุนี้ การเลือกที่พักรวมทั้งอาหารเย็นและอาหารเช้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งรายการที่พัก โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณสถานีนิกโก้’ ของเรา
บริเวณจูเซ็นจิออนเซ็น
สำหรับผู้มาเยือนที่ตั้งใจจะพักมากกว่าหนึ่งคืนในพื้นที่นิกโก้ ชูเซ็นจิออนเซ็นก็มีที่พักหลากหลายประเภทบนชายฝั่งทะเลสาบชื่อเดียวกัน ในฐานะเมือง ‘ออนเซ็น’ (น้ำพุร้อน) แบบดั้งเดิม โรงแรมส่วนใหญ่จึงจะมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ในตัว พร้อมร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศการเข้าพักที่ผ่อนคลาย โรงแรมมีตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงราคาประหยัด โดยมีร้านอาหารเพียงไม่กี่แห่ง และแทบจะไม่มเลยตอนกลางคืน แขกเกือบทั้งหมดที่เข้าพักในพื้นที่จึงจะเลือกแพคเกจห้องพักแบบรวมอาหารเย็นและอาหารเช้าเอาไว้ หากคุณตั้งใจจะไปเยี่ยมชมเพียงศาลเจ้าและวัด การพักในเมืองนิกโก้ก็เหมาะสมที่สุด แต่ถ้าวางแผนที่จะอยู่นานกว่านี้และไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพิ่มเติม การมุ่งหน้ามายังชูเซ็นจิออนเซ็นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งรายการที่พัก โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณชูเซ็นจิออนเซ็น’ ของเรา
บริเวณนิกโก้-ยูโมโตะออนเซ็น
ยุโมโตะออนเซ็น เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่โอคุ-นิกโก้ที่ใหญ่กว่า พื้นที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวกลางแจ้งที่สวยงามมากมายและบ่อน้ำพุร้อนที่น่ารัก แม้ว่ายูโมโตะจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีที่พักดีๆ มากมายในราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกเล็กน้อยในการมาเยือนนิกโก้ หรือผู้ที่ตั้งใจจะเดินป่าขึ้นภูเขานิกโก้-ชิราเนะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งรายชื่อที่พัก โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณนิกโก้-ยูโมโตะออนเซ็น’ ของเรา
บริเวณคินุกาว่าออนเซ็น
คินุกาวะออนเซ็น ตั้งชื่อตามแม่น้ำคินุกาวะหรือ “แม่น้ำปีศาจโทสะ” ที่ตั้งอยู่ เป็นอีกหนึ่งเมืองน้ำพุร้อนยอดนิยมของภูมิภาคนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากศาลเจ้าและวัดประมาณ 20 กม. บริเวณโดยรอบมีความสวยงามด้วยแม่น้ำที่นำเสนอทิวทัศน์ที่แสนงดงาม ซึ่งไหลผ่านภูมิทัศน์ป่าไม้และช่องเขาที่ขรุขระ การล่องเรือในแม่น้ำมีให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายน เป็นอีกวิธีที่ดีในการเพลิดเพลินไปกับแม่น้ำโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภายในเมืองนี้เต็มไปด้วยโรงแรมขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 แต่หลายแห่งได้ปิดตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดผลกระทบต่อความสวยงามโดยรวมของเมือง แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เห็นเส้นทางธรรมชาติ สวนสาธารณะ และบ่อแช่เท้าที่สร้างขึ้นในคินุกาวะ ในขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงเมืองจำลองเอโดะวันเดอร์แลนด์ ยังคงมอบความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมสำหรับแขกทุกวัย การเปิดตัวที่พักเมื่อเร็วๆ นี้ของ โฮชิโนะรีสอร์ท ไค คินุกาวะ เปรียบเสมือนสัญญาณของการฟื้นฟูของเมือง เนื่องจากเริ่มกำหนดเป้าหมายไปที่ตลาดระดับไฮเอนด์ที่กำลังมองหาการหลีกหนีจากโตเกียวในช่วงสุดสัปดาห์แบบสบายๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งรายการที่พัก โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณคินุกาวะออนเซ็น’ ของเรา
บริเวณชิโอบาระออนเซ็น
ชิโอบาระออนเซ็น อยู่ห่างจากศาลเจ้าและวัดต่างๆ ของนิกโก้ประมาณ 80 กม./70 นาที ดังนั้นจึงไม่ใช่ทางเลือกที่พักที่ดี ถ้าคุณวางแผนจะมุ่งหน้าไปเยี่ยมชมแหล่งมรดกโลกเพียงอย่างเดียว แต่จะเหมาะสมกว่าถ้าต้องการจะใช้เวลาในพื้นที่ที่กว้างขึ้น ชิโอบาระออนเซ็นมีพร้อมด้วยที่พักชั้นเลิศ และทิวทัศน์ตระการตาตามแนวช่องเขาชิโอบาระ มีแหล่งน้ำเพื่อการบำบัดของบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติกว่า 1000 ปีของเมืองซึ่งเป็นที่ต้องการ ชิโอบาระเป็นที่รู้จักมายาวนานว่าเป็นสถานที่หลบภัยและการพักผ่อน ประกอบด้วยโรงแรมขนาดใหญ่และเกสต์เฮาส์ขนาดเล็ก หลายแห่ง ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงเส้นทางเดินเลียบแม่น้ำโฮกิ กับสะพานแขวนและน้ำตกมากมายได้อย่างง่ายดาย ชิโอบาระออนเซ็นควรค่าแก่การเยี่ยมชมตลอดทั้งปี และดีที่สุดในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เพราะเป็นช่วงที่สีสันของฤดูใบไม้ร่วงสร้างความตื่นตาตื่นใจ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงรายชื่อที่พัก โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณชิโอบาระออนเซ็น’ ของเรา
เดินทางไปและรอบๆ นิกโก้
นิกโก้ ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 160 กม./2 ชั่วโมง เดินทางง่ายโดยใช้บริการรถไฟที่วิ่งจากเมืองหลวงและสถานที่อื่นๆ เมื่อมาถึงนิกโก้ จะมีรถบัสประจำทางวิ่งไปกลับจากจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่สุด โดยมี “พาสผ่านทุกที่ในนิกโก้” ให้บริการแก่ผู้มาเยือน หากต้องการข้อมูลทั้งหมดเพิ่มเติม โปรดดูหน้า ‘วิธีเดินทางไปนิกโก้’ ของเรา
วางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณ
การเดินทางไปนิกโก้โดยใช้รถไฟนั้นถือว่ารวดเร็ว ง่ายดาย และสะดวกสบาย ด้วยขนาดและประสิทธิภาพที่ดี ทำให้การเดินทางไปทั่วประเทศด้วยรถไฟค่อนข้างเปิดกว้างให้กับการสำรวจทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น ในหน้า ‘วางแผนการท่องเที่ยวของคุณ’ มีข้อมูลทุกสิ่งที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการมาเยือนญี่ปุ่น ตั้งแต่เคล็ดลับเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง การเข้าและออกประเทศ สกุลเงิน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่พัก การดูแลรักษาสุขภาพ มีครบทุกหัวข้อมากพอให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถใช้เวลาได้อย่างมีความสุขเมื่อมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น