นากาโนะ ญี่ปุ่น
SNOW MONKEY RESORTS
logo_circle
ติดต่อเรา
กิจกรรม
วัดเซ็นโคจิ

วัดเซ็นโคจิ

วัดเซ็นโคจิอยู่ห่างจากสถานีนากาโนะโดยใช้เวลาเดินไม่ถึง 30 นาที เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระพุทธรูปองค์แรกที่ถูกนำ,kยังประเทศญี่ปุ่น วัดแห่งนี้ยืนหยัดอยู่เหนือเมือง ไม่ว่าจะในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง มาเป็นเวลาเกือบ 1,400 ปี จนถึงทุกวันนี้ วัดเซ็นโคจิยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับผู้แสวงบุญชาวพุทธ ขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในวัดที่เปิดกว้างและให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวดีมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีการจัดพิธีช่วงเช้าทุกวันโดยเชิญผู้มาเยือนจากทุกภูมิหลังหรือความศรัทธาให้เข้าร่วม วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรม เทศกาล และงานเฉลิมฉลองต่างๆ มากมายตลอดทั้งปี และยังคงเป็นหัวใจจิตวิญญาณของภูมิภาค

zenkoji-niomon-banner-edit

เรื่องราวของเซ็นโคจิซึ่งก่อตั้งในปี 642 มีความเกี่ยวพันกับจังหวีดนากาโนะโดยตรง จนถึงทุกวันนี้วัดเซ็นโคจิก็ยังคงมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยในนากาโนะ ห้องโถงหลักของวัดซึ่งเป็นสมบัติของชาติที่ได้รับการจดทะเบียน เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้น “ฮิบุตสึ” หรือ “พระพุทธรูปลับ” ตำนานว่ากันว่ารูปปั้นนี้ถูกซ่อนไม่ให้มนุษย์มองเห็น ด้วยเรื่องเล่านี้จึงทำให้วัดมีกลิ่นอายของความลึกลับปรากฏอยู่ ที่ ‘ไคดัน เมกุริ’ ซึ่งเป็นอุโมงค์มืดที่นำผู้มาเยี่ยมชมลอดใต้วิหารไปยังจุดด้านล่างที่ปัจจุบันว่ากันว่าเป็นจุดเก็บรักษารูปปั้นนี้เอาไว้ โดยด้านล่างจะมืดสนิน ผู้ที่เดินเข้ามาต้องนำทางตัวเองโดยการแตะและจับเท่านั้นเพื่อค้นหา ‘กุญแจสู่สวรรค์’ เป็นวัตถุที่ซ่อนอยู่ในอุโมงค์กำลังรอการค้นพบ

วัดเซ็นโคจิอยู่ที่ไหน?

ประวัติศาสตร์ของเซ็นโคจิ

เซ็นโคจิและพุทธศาสนาของญี่ปุ่น

เทศกาลเซ็นโคจิและงานประจำฤดู

สิ่งน่าทำรอบๆ เซ็นโคจิ

ยามวิกาลในนากาโนะ: เซ็นโคจิหลังฟ้ามืด

ทานข้าวรอบๆ เซ็นโคจิ

ที่พักรอบๆ เซ็นโคจิ

ทัวร์และรถเช่าเหมาไปยังเซ็นโคจิ

เนื่องจากเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของนากาโนะ และเป็นหนึ่งในสถานที่ทางจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น วัดเซ็นโคจิจึงมีสิ่งต่างๆ มากมายที่สามารถมอบให้กับนักเดินทางหลายคนได้ รายล้อมไปด้วยถนนช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวาและถนนที่ปูด้วยหินเก่าแก่ นักชิมและผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง อาจได้ค้นพบสิ่งที่จะทำให้ตัวเองเพลิดเพลินได้! อ่านข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวัดต่อด้านล่าง หรือคลิกที่นี่ เพื่อจองทัวร์ชมพื้นที่

วัดเซ็นโคจิตั้งอยู่ที่ไหน?


เซ็นโคจิ ตั้งอยู่ห่างจากสถานีนากาโนะ โดยใช้เวลาเดินเพียง 30 นาที / 2 กม. ตั้งอยู่ที่ขอบด้านเหนือของเมืองนากาโนะ ใกล้กับภูเขาที่ล้อมรอบพื้นที่ ศูนย์กลางวัฒนธรรมของเมืองนากาโนะ พื้นที่รอบๆ วัดหลักยังมีวัดเล็กๆ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดเส้นทางที่สวยงามซึ่งประกอบเป็นพื้นที่ดั้งเดิมของเมืองนากาโนะ วิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในการเข้าถึงวัดเซ็นโคจิจากสถานีนากาโนะคือการเดิน โดยจะใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที และยังเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเดินชมเมืองอย่างใกล้ชิดขณะมุ่งหน้าไปที่วัด เพียงมุ่งหน้าไปทางเหนือไปตามถนนที่เรียกว่า ‘ชูโอ-โดริ’ และอีกไม่นานภาพของวัดเซ็นโคจิก็จะปรากฏขึ้นที่ปลายถนนสายยาวนี้ มีรถบัสให้บริการจากสถานี โดยออกจากฝั่งทิศเหนือ จากป้ายรถบัส ‘เซ็นโคจิ ไดมง’ เดินเพียง 10 นาทีก็ถึงห้องโถงหลัก สามารถเดินทางไปยังวัดแห่งนี้ได้โดยใช้รถไฟใต้ดินสายนากาเด็นของเมืองนากาโนะ จากสถานีนากาโนะ คุณต้องนั่งรถ 5 นาทีเพื่อไปยังสถานี ‘เซ็นโคจิ-ชิตะ’ จากนั้นเดินต่ออีก 5-10 นาทีไปยังวัด

ประวัติศาสตร์ของเซ็นโคจิ


zenkoji-temple

วัดเซนโคจิก่อตั้งในปี 642 โดยชายชื่อฮอนดะ โยชิมิตสึ เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่เก่าแก่ ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น วัดเซ็นโคจิสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับรูปปั้นพุทธองค์แรกที่ถูกนำมายังญี่ปุ่น (จากประเทศเกาหลี ในช่วงศตวรรษที่ 6) วัดเซ็นโคจิมีมาก่อนการก่อตั้งโรงเรียนพุทธศาสนาหลายแห่งโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดหลายแห่งที่พบทั่วประเทศ

ตามตำนาน รูปปั้นนี้สูญหายไปในความขัดแย้งระหว่างกลุ่มที่นับถือศาสนาพุทธและกลุ่มต่อต้าน แต่ก็ได้ถูกพบอย่างน่าอัศจรรย์โดย ฮอนดะ โยชิมิตสึ ที่กล่าวถึงข้างต้นและนำกลับไปที่บ้านของตัวเอง โดยเขาได้สร้างวัดเซ็นโคจิและซ่อนรูปปั้นเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานมากนักสำหรับเรื่องราวนี้ แต่ผู้ศรัทธาก็ยอมรับว่าเป็นต้นกำเนิดของวัด โดยเผยให้เห็นอยู่ภายในชื่อ – เซ็นโค เป็นวิธีอ่านอีกแบบหนึ่งของคำว่า โยชิมิตสึ (และคำว่า ‘จิ’ เมื่อนำไปต่อท้ายคำใด จะหมายถึงวิหาร)

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัดก็มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมาถึงเราในยุคปัจจุบัน ในฐานะหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในญี่ปุ่น หลังจากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่หลายครั้ง ห้องโถงใหญ่ก็ถูกย้ายออกไปอีก 30 เมตรทางเหนือ มีการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1707 โชคดีที่สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นอันน่าประทับใจชิ้นนี้ยังคงอยู่มาจนถึงทุกปัจจุบัน และยังคงทำหน้าที่เป็นห้องโถงหลักของวัดเพื่อทักทายผู้มาเยือน ดังที่มีมานานนับร้อยปี

แม้ว่ารูปปั้นที่อุทิศให้กับวัดจะถูกซ่อนอยู่ แม้กระทั่งจากพระภิกษุที่ทำงานในบริเวณวัด ทุกๆ 6-7 ปี รูปปั้นจำลองซึ่งมีอายุเกือบ 700 ปี ก็จะถูกจัดแสดงต่อฝูงชนจำนวนมากในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ถ้าคุณเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้พอดี ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ไปเยี่ยมชม เพื่อดูประวัติความเป็นมาของวัดเซ็นโคจิด้วยตัวเอง

เซ็นโคจิและพุทธศาสนาของญี่ปุ่น


วัดเซ็นโคจิเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในแหล่งรวมความคิดทางพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นและมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการพัฒนาศาสนาในประเทศนี้ แม้ว่าปัจจุบันจะมีวัดหลายแห่งในญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป พุทธศาสนาแม้ว่าจะมีต้นกำเนิดในอนุทวีปอินเดียเมื่อประมาณ 2,500 ปีที่แล้ว แต่ศาสนาพุทธก็ถูกนำเข้ามายังญี่ปุ่นผ่านอิทธิพลของจีนและเกาหลีเมื่อประมาณ 1,500 ปีที่แล้วเท่านั้น ชาวญี่ปุ่นในยุคแรกมีความประทับใจกับสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ รูปปั้นอันวิจิตรงดงาม และประเพณีอันลึกซึ้งของพุทธศาสนา ตั้งแต่ได้พบเห็นเป็นครั้งแรก โดยศาสนานี้ก็ได้ถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่ชนชั้นสูง

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในหัวข้อที่แล้ว นี่ไม่ใช่กระบวนการที่ถูกคัดค้านโดยสิ้นเชิง ในไม่ช้าความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนและต่อต้านศาสนาพุทธ และหลังจากผ่านไปหลายปี ความเชื่อทางพุทธศาสนาก็เผยแพร่ไปทั่วประเทศอย่างสมบูรณ์ ตลอดยุคกลาง ศาสนาพุทธและศาสนาชินโตซึ่งเป็นศาสนาพื้นเมืองของญี่ปุ่น ได้อยู่ร่วมกับคนส่วนใหญ่ที่นับถือศาสนาทั้งสอง แม้ว่าจะมีช่วงเวลาแห่งความขัดแย้ง รวมไปถึงขั้นห้ามพุทธศาสนาทั่วประเทศในช่วงสั้น ๆ ของยุคสมัยใหม่ แต่ในปัจจุบัน พุทธศาสนาก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่น่าเคารพนับถือ โดยที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เลือกจัดงานศพแบบชาวพุทธ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ระบุตัวตนว่าเป็นชาวพุทธก็ตาม

zenkoji-temple

แท้จริงแล้ว ชาวญี่ปุ่นที่ระบุตัวว่าเป็นชาวพุทธในปัจจุบันนั้นก็มีค่อนข้างน้อยหากถูกถามโดยตรง คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เองก็ไม่คุ้นเคยกับคำสอนทางพุทธศาสนาที่เฉพาะเจาะจงมากนักมากนัก แต่คุณก็จะได้พบนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาสวดมนต์ที่วัด แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลทางวัฒนธรรมของพุทธศาสนาก็ยังคงมีอย่างกว้างขวางในทุกภาคส่วนของสังคม ด้วยวิธีนี้ พุทธศาสนาหลายส่วนจึงกลายเป็นแบบญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีปฏิสัมพันธ์กับวัฒนธรรมและศาสนาในท้องถิ่น เพื่อผลิตนิกายจำนวนหนึ่งซึ่งพบได้ในญี่ปุ่นเท่านั้น หรือมีการปฏิบัติที่แตกต่างจากญี่ปุ่นจากดินแดนต้นกำเนิด

เพื่อให้ครอบคลุมถึงต้นกำเนิดและความเชื่อของนิกาย พุทธศาสนาในญี่ปุ่นทั้งหมดจะต้องใช้ทั้งเวลาและหยดหมึกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม วัดเซ็นโคจิและตัวตนของวัดที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนิกายใด ก็มีผลอย่างมากกับการเผยแพร่นั้น เพราะเป็นหนึ่งในวัดแห่งแรกๆ ในญี่ปุ่น วัดแห่งนี้มีมาก่อนโรงเรียนที่แพร่หลายนับตั้งแต่ก่อตั้ง โดยยังคงเป็นสถานที่ที่เปิดกว้างและยอมรับแนวคิดทุกแห่งโดยไม่มีสังกัดเฉพาะเจาะจง แม้ว่าจะไม่ใช่นิกาย แต่วัดก็ได้รับการดูแลจากสองนิกาย ได้แก่ นิกายโจโดและนิกายเทนได ด้วยวัดของพวกเขาเอง ได้แก่ ‘ไดฮงกัน’ และ ‘ไดคันจิน’ ซึ่งอยู่ก่อนฮอนโด บริเวณประวัติศาสตร์นี้เป็นที่ตั้งของวัดขนาดเล็กหลายแห่ง โดยมี ‘นิโอมอน’ (ประตูผู้พิทักษ์) และ ‘ซันมง’ (ประตูภูเขา) เป็นเครื่องหมายทางเข้า พร้อมด้วยเส้นทาง ‘โอโมเตะซันโดะ’ (ทางแสวงบุญ)

เทศกาลเซ็นโคจิและงานประจำฤดู


เนื่องจากเหมาะสมกับการเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ วัดเซ็นโคจิจึงเป็นที่ตั้งของเทศกาลและงานต่างๆ ตามฤดูกาลมากมาย ซึ่งจะทำให้การมาเยือนของคุณมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ทั้งกิจกรรมแบบรายวัน รายปี และงานที่จัดขึ้นอย่างไม่มีเวลาแน่ชัด ไม่ว่าจะมาเยี่ยมชมในเวลาไหน ก็จะมีสิ่งให้เข้าร่วมได้เสมอ

o-asaji Zenko-ji temple ceremony

‘โอ-อาซาจิ’ & ‘โอ-จูซุ โชวได’


พิธีนี้เรียกว่า “โอ-อาซาจิ” จะจัดขึ้นทุกเช้าของปี นำโดยหัวหน้านิกายเทนไดและโจโดะ ยินดีต้อนรับทุกคนให้เข้าร่วมโดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังหรือความต่างทางศาสนา ไม่นานหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น หัวหน้าของแต่ละนิกายจะเดินจากวัดของตนไปยังห้องโถงใหญ่ นำทางพระภิกษุและแม่ชีเข้าร่วมในพิธีกรรมโบราณ พร้อมกับท่องพระสูตรและสวดมนต์ไปด้วย ทำให้เกิดบรรยากาศที่แตกต่างจากโลกอื่น

แต่ละพิธีจะใช้เวลา 30 นาทีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าพิธีโดยรวมจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และมีพิธี ‘โอ-จูซุ โชวได’ หรือ ‘การภาวนา’ ทั้งคู่ ขณะที่หัวหน้าของแต่ละนิกายเคลื่อนตัวเข้าและออกจากวัด ผู้เข้าร่วมจะเข้าแถวและคุกเข่าต่อหน้าพวกเขา เพื่อรอรับพรด้วยการสัมผัสลูกประคำอันนุ่มนวลบนศีรษะ การกระทำง่ายๆ นี้ว่ากันว่าทำเพื่อให้วางใจว่าจะได้ตายอย่างสงบ และเข้าสู่สรวงสวรรค์ของชาวพุทธ พรที่ผู้เข้าชมสามารถรับได้สี่ครั้งในพิธีใดพิธีหนึ่ง เมื่อหัวหน้าของทั้งสองนิกายเคลื่อนตัวเข้าและออกจากห้องโถงใหญ่

พิธีจะเกิดขึ้นหลังพระอาทิตย์ขึ้นไม่นาน เวลาในการทำพิธีจะแตกต่างกันไปตลอดทั้งปี ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเมษายน โดยคาดว่าจะเริ่มเวลาระหว่าง 6.00 น. – 7.00 น. โดยมีพิธีจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤษภาคม – กันยายน เริ่มระหว่าง 5.30 น. – 6.30 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการเข้าบริเวณวัดและรับสายประคำ แต่ถ้าคุณต้องการนั่งในห้องโถงหลักเพื่อชมพิธีโออาซาจิ ก็จะต้องจ่ายเงิน 600 เยนเพื่อเข้าสู่เขตศักดิ์สิทธิ์ด้านใน สำหรับเวลาที่แน่นอนของพิธีในแต่ละปี สามารถดูได้ที่ตารางเวลาของวัด

zenkoji-temple

“โกไคโช”


จัดขึ้นทุกๆ 6 หรือ 7 ปี – ‘เซ็นโคจิ มาเอะไดจิฮอนซง โกไคโจ’ หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘โกไคโจ’ เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์และมรดกของเซ็นโคจิ ด้วยการจัดแสดง ‘มาเอะดาจิ ฮอนซง’ ต่อสาธารณะ หรือก็คือแบบจำลองของสิ่งที่ซ่อนเร้น รูปปั้นที่ประดิษฐานอยู่ในวัด (สามารถชมรูปภาพขององค์พระของจริงและองค์จำลองได้ในภาพด้านล่าง) กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกที่นำเข้ามาในญี่ปุ่น ในช่วงศตวรรษที่ 6 โดยยังคงซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็น และจะไม่สามารถมองเห็นด้วยตามนุษย์ไปตลอดกาล รูปปั้นจำลองถูกแกะสลักในศตวรรษที่ 14 ซึ่งหมายความรูปปั้นดั้งเดิมก็เคยถูกจัดแสดงในช่วงเวลาต่างๆ ในประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน โดยปัจจุบันก็ถูกซ่อนไม่ให้ผู้อื่นเห็นนอกเหนือจากในช่วงเทศกาลนี้ด้วย

ในระหว่างพิธีโกไคโจ รูปปั้นจำลองจะถูกย้ายไปยังเขตศักดิ์สิทธิ์ด้านในของห้องโถงหลักของวัด และเปิดเผยแก่ผู้ที่มาร่วมงาน จากนั้นรูปปั้นดังกล่าวก็ปรากฏต่อสาธารณชนตลอดพิธีที่เหลือ เทศกาลนี้ยังมีการสร้างเสา ‘เอโกะบาชิระ’ ที่หน้าวัดอีกด้วย เสาไม้ขนาดใหญ่นี้ถูกนำมาจากมัตสึชิโระ และครั้งหนึ่งเคยวางไว้หน้าวัด โดยเชื่อมต่อกับมาไดอิจิ ฮอนซง ซึ่งเป็นรูปปั้นจริงที่กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยการใช้เชือก จากนั้นผู้เข้าร่วมจะมีอิสระที่จะวางฝ่ามือไว้กับเสาเพื่อถ่ายโอนพลังงานระหว่างตนเองกับรูปปั้น การกระทำและการจัดแสดงแบบจำลองที่เรียบง่ายแต่มีความหมายนี้ ช่วยดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมวัดได้หลายล้านคน โดยมีกิจกรรมและพิธีกรรมเฉพาะที่จัดขึ้นเป็นเวลาหลายเดือน ภายในช่วงเวลาพิธี กล่องบรรจุรูปปั้นดั้งเดิมจะถูกเปิดออก และด้านในจะถูกห่อด้วยสำลี มีเชือกผูกไว้ ทำให้แม้แต่พระภิกษุที่เปิดกล่องก็จะไม่ได้เห็นรูปปั้นเลย

โกไคโจครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2022 ดังนั้นจึงยังเหลือเวลาอีกสักพักจนกว่าครั้งถัดไปจะจัดขึ้นในปี 2027 หรือ 2028 โดยทั่วไปจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน ดังนั้นหากคุณมาญี่ปุ่นในช่วงฤดูดอกซากุระบานในระหว่างปี การแวะดูโกไคโจก็อาจช่วยทำให้โปรแกรมท่องเที่ยวของคุณสนุกสนานขึ้นได้

tomyo-lantern-zenkoji

เทศกาลโทเมียว (เทศกาลลอยโคม)


เทศกาลอันมหัศจรรย์นี้จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยจะเปลี่ยนทั้งเซ็นโคจิและถนนสายหลักที่ทอดไปสู่วัดแห่งนี้ ให้กลายเป็นเวทีสำหรับโคมไฟญี่ปุ่นที่ออกแบบอย่างสวยงามหลายร้อยดวง ด้วยงานศิลปะแต่ละชิ้นที่ประดับประดาอยู่ ทำให้แทบจะลืมความหนาวเย็นเมื่อได้เดินเล่นไปตามถนนและดื่มด่ำไปกับแสงไฟ โคมไฟที่สวยงามเหล่านี้สร้างขึ้นโดยศิลปินมืออาชีพ ชาวบ้านในท้องถิ่น และเด็กๆ ซึ่งรวบรวมจิตวิญญาณของชุมชนเอาไว้ในเทศกาล

กิจกรรมนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเล่นสกีที่มาเยือนลานสกีในบริเวณใกล้เคียง และทำหน้าที่เป็นทริปเสริมที่ดีเยี่ยมระหว่างทางไป-กลับจากรีสอร์ทของคุณ เนื่องจากวันที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี โปรดตรวจสอบและยืนยันวันที่ที่ระบุก่อนวางแผนการเดินทาง

สิ่งน่าทำรอบๆ เซ็นโคจิ


นอกเหนือจากการสวดมนต์แล้ว วัดเซ็นโคจิยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายให้ทำ ซึ่งบางกิจกรรมจะช่วยให้จิตใจของคุณผ่อนคลายและท้องอิ่มได้! สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมน่าสนใจภายใน และรอบๆ บริเวณวัดต่อได้ที่ด้านล่าง

ไคดันเมกุริประตูซันมง – ห้องสมุดหมุน เคียวโซพิธีกรรมไฟ – การทำสมาธิแบบเซนการประดิษฐ์ตัวอักษร –ชิมสาเกซื้อของที่ระลึก – สตรีทฟู้ด

Zenko-ji kaidan stairs

ไคดัน เมกุริ


หนึ่งในกิจกรรมที่มีเอกลักษณ์ที่สุดที่วัดเซ็นโคจิ ‘ไคดัน เมกุริ’ คล้ายกับเป็นการสะเดาะเคราห์ โดยจะต้องลงไปสู่อุโมงค์สีดำสนิทซึ่งอยู่ใต้วัด เพื่อค้นหาทางออกท่ามกลางความมืดสนิท เปรียบเสมือนวัฏจักรแห่งความตายและการเกิดใหม่ ผู้ที่กลัวความมืดควรหลีกเลี่ยงการทดลองนี้ – แต่หากคุณกล้าพอ ก็จะได้พบกับประสบการณ์แห่งการไตร่ตรองราวกับหลุดไปยังโลกอีกใบรอคอยอยู่

หากต้องการลองเข้าร่วมไคดัน เมกุริ คุณจะต้องซื้อตั๋วเข้าห้องโถงหลักภายในวัดเซ็นโคจิ ซึ่งมีราคา 600 เยน หรือสามารถซื้อตั๋วรวมได้ในราคา 1,200 เยน ซึ่งรวมถึงทางเข้าประตูซันมง และห้องสมุดหมุนเคียวโซว (รายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง)

zenkoji-temple

ประตูซันมง


ประตูนี้สร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับห้องโถงหลักในช่วงทศวรรษปี 1700 มอบทิวทัศน์อันงดงามสำหรับผู้ที่ขึ้นไปชั้นบน ที่นี่ต้องขึ้นบันไดที่สูงชันเท่านั้นเพื่อที่จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุด จึงจำเป็นต้องใช้ความสามารถทางกายภาพขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สามารถขึ้นไปชมวิวเหนือโถงหลัก ภาพของถนนรอบๆ และภูเขาใกล้เคียงด้านบนนั้นก็ถือว่าคุ้มค่ามาก

ประตูซันมงสามารถเข้าได้โดยการซื้อตั๋วเข้าชมราคา 600 เยนที่ด้านล่างของประตู หรือใช้ตั๋วรวมราคา 1,200 เยน ซึ่งรวมถึงทางเข้าห้องโถงใหญ่และห้องสมุดหมุนเคียวโซ

ห้องสมุดหมุน เคียวโซ


ห้องสมุดหมุนเคียวโซตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของห้องโถงหลัก เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจในอาคารขนาดเล็ก มีลักษณะคล้ายทรงกระบอกขนาดใหญ่ และมีพระสูตรหรือม้วนคัมภีร์เก็บอยู่มากมาย ด้านในสามารถหมุนอุปกรณ์ทั้งหมดได้โดยการดันซี่ล้อจำนวนหนึ่งที่ยื่นออกมาจากด้านข้าง แม้ว่าจะต้องออกแรงกดบ้างเพื่อให้มันดำเนินต่อไป แต่ก็เป็นเรื่องง่ายอย่างน่าทึ่งที่จะหมุนวัตถุที่มีขนาดใหญ่และหนักมาก ต้องขอบคุณการออกแบบทางวิศวกรรมที่ใช้ในการก่อสร้าง

สามารถซื้อทางเข้าภายในอาคารได้ในราคา 300 เยน หรือซื้อตั๋วรวมได้ในราคา 1,200 เยน ซึ่งรวมถึงทางเข้าประตูซันมงและห้องโถงหลักด้วย

zenkoji-temple-goma

เข้าร่วมพิธีไฟ มาวาริ โกมะ


ชาวพุทธเชื่อว่าเราต้องปราบและขจัดความปรารถนาทางโลกออกไป เพื่อที่จะได้มองเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของการดำรงอยู่ เป็นแนวทางและสนับสนุนเราในเป้าหมายนั้น พระภิกษุผู้ทรงคุณวุฒิจะทำการ “สวดมนต์โกมะ” หรือ “พิธีผิงไฟ” โดยนำไม้สวดมนต์มาเผาในเปลวไฟที่เสกแล้ว เป็นพิธีกรรมที่เชื่อกันว่าช่วยทำความสะอาดจิตใจและจิตวิญญาณของผู้เข้าร่วม การกำจัดพลังงานเชิงลบ ความคิดที่เป็นอันตราย และอุปสรรคอื่นๆ ช่วยให้เราเดินทางสู่การตรัสรู้ และเปลี่ยนการมาเยือนวัดเซ็นโคจิของคุณให้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวและการระบาย

คลิกที่ลิงก์ด้านบนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการติดต่อเพื่อจองตารางเข้าร่วมกิจกรรมของวัด

ฝึกสมาธิแบบ ‘ซาเซ็น’


การทำสมาธิแบบนิกายเซน ซึ่งปัจจุบันโด่งดังไปทั่วโลกมีรากฐานมาจากญี่ปุ่นเมื่อไปหลายศตวรรษในอดีต ภายในชั้นเรียนซามูไรที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในยุคกลาง ปัจจุบันช่วยดึงดูดผู้คนทุกประเภทที่ต้องการใช้เวลาจากตารางงานที่ยุ่งยาก เพื่อมุ่งความสนใจไปที่สิ่งเรียบง่าย ‘ซาเซ็น’ หรือ ‘นั่งสมาธิ’ เน้นผู้ฝึกในเรื่องท่าทาง การหายใจ และการฝึกสติ เมื่อทำเช่นนี้ร่างกายและจิตใจจะพบความสามัคคีและในความสงบนิ่งของการปฏิบัติ เราจะอยู่กับปัจจุบัน ปราศจากสิ่งรบกวน และเปิดกว้างต่อธรรมชาติที่แท้จริงของการดำรงอยู่ ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ในการฝึกสมาธิหรือลองทำเป็นครั้งแรกก็ตาม การทำ ‘ซาเซ็น’ โดยพระภิกษุที่วัดที่ศักดิฺสืทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จะทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกไว้ให้ และมอบความเข้าใจในวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาแก่คุณ

คลิกที่ลิงก์ด้านบนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการติดต่อเพื่อจองตารางเข้าร่วมกิจกรรมของวัด

shodo-calligraphy

สัมผัสกับการทำสมาธิชาเคียว


คำสอนของพระพุทธเจ้าได้สืบทอดมาถึงเราในรูปแบบของ ‘พระสูตร’ หรือคัมภีร์ทางศาสนาที่เป็นลายลักษณ์อักษร ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าคำต่างๆ ไหลผ่านร่างกายของเรา การติดตามพระสูตรในรูปแบบของอักษรวิจิตรซึ่งเรียกว่า ‘ชาเคียว’ ผ่านความเงียบและความตระหนักรู้ ถือเป็นการฝึกปฏิบัติที่ทำให้ร่างกายและจิตใจประสานกันในรูปแบบของการทำสมาธิ คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การปฏิบัตินี้ได้ที่วัดเซ็นโคจิ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากพระภิกษุผู้ประจำถิ่น การปฏิบัตินี้ให้รางวัลแก่ทั้งชาวพุทธและผู้ที่ไม่ใช่ชาวพุทธอย่างเท่าเทียมกัน ทำให้ผู้ปฏิบัติมีความสงบและจิตใจสงบในขณะที่มือและพู่กันติดตามพระสูตรจนจบ

คลิกที่ลิงก์ด้านบนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการติดต่อเพื่อจองตารางเข้าร่วมกิจกรรมของวัด

sake

ชิมรสชาติสาเกท้องถิ่น


จังหวัดนากาโนะมีชื่อเสียงในด้านการผลิตสาเกหรือเหล้าญี่ปุ่นแสนอร่อย เนื่องจากแหล่งน้ำบริสุทธิ์และฤดูหนาวที่หนาวเย็น แน่นอนว่าการซื้อทั้งขวดโดยไม่ทราบรสชาติก่อนอาจดูน่ากังวลเล็กน้อย ถ้างั้นก็ลองชิมให้หมดก่อนตัดสินใจซะเลยสิ? ทัวร์วัดเซ็นโคจิและสวนลิงหิมะของเรา รวมโปรแกรมการเยี่ยมชมโรงเหล้าสาเกในท้องถิ่น โดยไกด์ของคุณจะอธิบายอย่างละเอียดถึงวิธีการทำสาเก ความแตกต่างของคุณภาพสาเกชนิดต่างๆ และสิ่งอื่นใดที่คุณต้องการทราบเกี่ยวกับสาเก คือเครื่องดื่มประจำชาติของญี่ปุ่น

incense-art

ซื้อของที่ระลึกกลับไปเป็นความทรงจำในการมาเยือนของคุณ


บริเวณรอบๆ วัดเซ็นโคจิซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าทุกประเภท รวมถึงของกระจุกกระจิกทางพุทธศาสนาและสินค้าอื่นๆ ที่เหมาะสำหรับนำกลับไปเป็นของขวัญให้เพื่อนหรือให้ตัวเอง!

เครื่องเทศชิจิมิ: โดยทั่วไปแล้ว อาหารญี่ปุ่นมักไม่ใช่ส่วนผสมที่มีรสเผ็ด ตรงข้ามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอย่างเกาหลีและจีนขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารรสเผ็ด ญี่ปุ่นอยู่ในระดับเดียวกับอังกฤษในเรื่องความทนทานต่อเครื่องเทศ! อย่างไรก็ตาม เครื่องเทศผสมชิจิมิซึ่งเป็นส่วนผสมของเครื่องเทศทั้ง 7 เป็นหนึ่งในของฝากที่มีชื่อเสียงที่สุดในพื้นที่เซ็นโคจิ สาเหตุมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของร้านพริกไทยที่คิดค้นชิจิมิ ‘ยาวาตะยะ อิโซโกโระ’ ก่อตั้งเมื่อกว่า 270 ปีที่แล้ว สมัยญี่ปุ่นอยู่ในสมัยเอโดะ เครื่องเทศทั้ง 7 ชนิด ได้แก่ พริกแดง ขิง งา และเครื่องเทศอื่นๆ อีก 4 ชนิดที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น จะถูกผสมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างส่วนผสมของรสชาติที่ดีที่สุด ชิจิมิมักใช้เพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับอาหารประเภทต่างๆ เช่น โซบะ กิวด้ง รวมถึงพาสต้า พวกเขายังมีของขบเคี้ยวที่มีเครื่องเทศและพริกป่นหลากหลายที่มีระดับความเผ็ดต่างกัน โดยระดับสูงสุดนั้นเรียกว่า ‘เบิร์ดอาย’ เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับมือกับความร้อนได้เล็กน้อย มีสำนักงานใหญ่ของธุรกิจตั้งอยู่ก่อนถึงเส้นทางแสวงบุญเซ็นโคจิ ทางด้านขวามือ เลขที่ 83 ไดมงโจ เมืองนากาโนะ, จังหวัดนากาโนะ

ธูป: ธูปกลิ่นต่างๆ มากมายมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับพิธีกรรมทางพุทธศาสนา โดยมีขายที่เซ็นโคจิ รวมถึงมีธูปแบรนด์เซ็นโคจิวางจำหน่ายที่ร้านทันทีทางด้านขวามือของห้องโถงใหญ่ ธูปนั้นเหมาะสำหรับการเข้าร่วมพิธีกรรมทางพุทธศาสนา หรือจะใช้เพียงเพื่อทำให้ห้องหอมสดชื่นก็ได้เช่นกัน เป็นสินค่าที่ง่ายต่อการขนกลับ และเป็นของที่ระลึกซึ่งเหมาะสำหรับการเที่ยวชมวัดอย่างยิ่ง

เครื่องรางโอมาโมริ: สามารถพบได้ทั้งที่วัดและศาลเจ้าในญี่ปุ่น โอมาโมริเป็นเครื่องรางชิ้นเล็กๆ ที่พกไว้เพื่อขอโชคลาภ ความปลอดภัย สุขภาพ ความสำเร็จทางธุรกิจ และอื่นๆ อีกมากมาย! ในญี่ปุ่นเป็นเรื่องปกติมากที่จะมีโอมาโมริอยู่ในรถ ห้อยกับกระเป๋าเป้ วางไว้ในบ้านหรือเก้บใส่ในกระเป๋าเงินเพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรักจากความชั่วร้ายของโลก วัดเซ็นโคจิมีโอมาโมริให้เลือกมากมาย ประกอบกับการออกแบบลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัด และมีตัวอักษรน่ารักที่แสดงบนตัวของโอมาโมริ วางขายภายในห้องโถงหลัก แต่ในกรณีที่ห้องโถงหลักปิด จะมีตู้จำหน่ายโอมาโมริเพิ่มเติมที่ด้านหน้า

food-oyaki

เดินกินที่สตรีทฟู้ด


เนื่องจากมีผู้แสวงบุญและผู้มาเยือนจำนวนมากเดินเตร่อยู่รอบๆ ทำให้้ถนนที่นำไปสู่วัดเซ็นโคจิเต็มไปด้วยร้านอาหารที่เน้นซื้อกลับบ้านจำนวนมาก มีทั้งของว่างและขนมหวานแสนอร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนนากามิเซะที่ทอดตรงเข้าสู่วัดและปิดไม่ให้รถสัญจรไปมา ถือเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการเที่ยวชมสิ่งที่มีอยู่ ก่อนหรือหลังการเยี่ยมชมวัด เราขอแนะนำให้ลองชิมอาหารท้องถิ่นบางอย่าง เช่น:

โอยากิ: หนึ่งในอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของนากาโนะ เป็นขนมปังข้าวสาลีสอดไส้ผักนานาชนิด ไส้ยอดนิยม ได้แก่ โนซาวะนะ (มัสตาร์ดเขียว), ฟักทองคาโบฉะ และอังโกะ (ไส้ถั่วแดง) และยังมีไส้อื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงรสชาติทดลองอื่นๆ อย่างเช่นเนื้อวัวและชีส! โอยากิมีขายรอบๆ วัดเซ็นโคจิ เหมาะแก่การเติมท้องก่อนเที่ยวชมต่อ

เซมเบ้: หรือที่รู้จักกันในชื่อข้าวเกรียบเซมเบ้ เป็นของว่างกรุบกรอบแบบญี่ปุ่นคลาสสิก มักรับประทานโดยนักเดินทางสมัยก่อน มีหลายรสชาติ ในปัจจุบันเซมเบ้ก็ยังคงเป็นขนมที่ชาวญี่ปุ่นนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่อท้องร้อง

ไอศกรีม: หากคุณใช้เวลาอยู่ในญี่ปุ่น คุณจะสังเกตเห็นว่ามีร้านไอศกรีมวางขายอยู่ทั่วไป ที่วัดเซ็นโคจิเองก็ไม่มีข้อยกเว้น แน่นอนว่ามีรสวานิลลา แต่ก็ยังมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย เช่น รสเกาลัด และมิโซะ! โดยเฉพาะมิโซะซึ่งเป็นรสชาติที่หาได้ยาก และถึงแม้จะฟังดูแปลก แต่ความเค็มของมิโซะกลับเข้ากันกับความหวานของไอศกรีมได้อย่างลงตัว

พายแอปเปิล: นากาโนะขึ้นชื่อในเรื่องแอปเปิ้ล และมีการทำพายเพื่อสร้างสรรค์วิธีการทานแอปเปิ้ลให้อร่อยเพิ่มขึ้น ลองมองหาพายแอปเปิ้ลบนถนนนากามิเสะ และชิมพายรสอร่อยไม่เหมือนใครของนากาโนะได้เลย

… อื่นๆ อีกมากมาย: มีร้านค้าใหม่ๆ เปิดอยู่เสมอบนถนนนากามิเสะอันคึกคักซึ่งทอดยาวไปถึงเซ็นโคจิ โดยคุณจะได้พบกับอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็ยเค้กคาสเทลล่าญี่ปุ่น ชาลาเต้ที่ทำจากชาเขียวคั่วหรือมัทฉะ กาแฟ (แม้กระทั่งสตาร์บัคส์) และอาหารอื่นๆ กำลังรอให้คุณลิ้มลองในเมืองวัดแห่งนี้

ยามวิกาลในนากาโนะ: เซ็นโคจิหลังฟ้ามืด


zenkoji-temple-illumination

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ผู้มาเยือนก็ลดลง หลายๆ คนหากไม่ได้เดินทางไปยังสถานีนากาโนะ กลับโรงแรม รับประทานอาหารเย็น ก็มักจะเดินทางไปยังสถานที่อื่นๆ แต่ผู้ที่ยังคงอยู่ในนากาโนะ จะได้พบว่าเมื่อแสงจางลงและนักท่องเที่ยวต่างก็สลายตัวไปท่ามกลางเงามืด ยามรักษาการณ์ของ ‘นิโอมอน’ จะส่องแสงสว่างขึ้น เฝ้ายามอย่างไม่มีที่สิ้นสุดท่ามกลางความเข้มข้นของความมืด บริเวณวัดยังคงเปิดในเวลากลางคืน ถึงประตูห้องโถงหลักจะปิด แต่การเดินเล่นในย่านนี้จะเผยให้เห็นความงามที่แตกต่างไปจากในเวลากลางวันโดยสิ้นเชิง

สำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ย่านกอนโดะโดริของนากาโนะนั้นอยู่ไม่ไกลจากมอนเซ็น เทอร์ราซ เอ็นยะ มุ่งหน้าลงโอโมเตะซันโดะ (ถนนสายหลักที่ทอดกลับจากวัดไปยังสถานี) คุณจะได้ผ่านถนนที่มีหลังคาทางซ้ายมือของคุณหลังจากนั้นประมาณ 5 นาที (มี 7-11 อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนโดยตรง) ทางเดินของกอนโดะ-โดริและตรอกซอกซอยที่ทอดยาวไป มีร้านที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวกลางคืนด้วยบาร์ อิซากายะ และร้านอาหารอื่นๆ รวมถึงร้าน Beerhall Topi และ ร้าน Bistro & Bar Nagi

สำหรับผู้ที่เดินต่อไปอีกหน่อย บริเวณหน้าสถานีนากาโนะฝั่งเซ็นโคจิก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ อิซากายะ และความบันเทิงทุกประเภท หากโรงแรมของคุณอยู่ใกล้สถานี การเดินทางไปบาร์จากเซ็นโคจิไปกลับก็ทำได้อย่างง่ายดายโดยแวะที่กอนโด อาร์เคต และย่านดื่มเหล้าหน้าสถานีเพียงไม่กี่แห่ง

ทานข้าวรอบๆ เซ็นโคจิ


monzen-terrace-enya-illumination

เมืองนากาโนะได้รับสถานะเป็นเมืองหลวงของจังหวัด มีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากมายสำหรับทั้งร้านอาหารและที่พัก แม้ว่าจะไม่ได้มีประชากรหนาแน่นเท่ากับโตเกียวหรือโอซาก้า แต่ความหลากหลายและจำนวนร้านอาหารที่มีให้บริการในเมืองแห่งนี้จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ โดยคำแนะนำของเราในพื้นที่มีดังนี้:

tour-lunch-green-season-enya

มอนเซ็น เทอร์ราซ เอ็นยะ: ร้านอาหารแห่งนี้ผสมผสานอาหารญี่ปุ่นคลาสสิกและอาหารตะวันตกเข้าด้วยกันในเมนูที่น่าตื่นเต้นซึ่งเหมาะกับทุกรสนิยม ด้วยตัวเลือกซูชิและซาซิมิที่หลากหลาย อาหารท้องถิ่นยอดนิยม เช่น เนื้อวากิวนากาโนะ และไก่สไตล์ฟุคุมิโดริ พร้อมด้วยพิซซ่า ตัวเลือกมังสวิรัติ และเมนูร้านกาแฟชั้นยอด มอนเซ็น เทอร์ราซ เอ็นยะ มีที่นั่งทั้งในร่มและกลางแจ้ง ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการดื่มด่ำกับบรรยากาศ และเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษ!

soba-food

ไดมารุโซบะ: เป็นหนึ่งในร้านโซบะ (บะหมี่บัควีท) ที่โด่งดังที่สุดในเมืองนากาโนะ ด้วยการทำเส้นโซบะด้วยมือแบบสดๆ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้จากหน้าต่างร้าน หากคุณต้องการเครื่องเคียงกับโซบะ คุณสามารถขอเทมปุระที่ทำจากผักสดในท้องถิ่นได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นอุด้งทำมือสำหรับผู้ที่ต้องการทานแบบผสมเส้นได้ด้วย

The fujiya gohonjin

ฟูจิยะ โกฮอนจิน: หากคุณต้องการเรียนต่อหนึ่งคืน ร้านอาหารแนะนำคือร้านอาหารฟูจิยะ โกฮอนจิน ร้านอาหารแห่งนี้ผสมผสานห้องครัวแบบอิตาเลียนและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ไม่เพียงแต่ในอาหารที่เสิร์ฟเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงรูปลักษณ์ของสถานที่ด้วย ฟูจิยะ โกฮอนจิน มีชื่อเสียงในหมู่ชาวนากาโนะในเรื่องสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานอันวิจิตรบรรจง และอาหารรสเลิศ ภายในร้านอาหารมีเมนูภาษาอังกฤษ

ที่พักแรมรอบๆ เซ็นโคจิ


togakushi-shukubo-miyzawa-ryokan

มีที่พักใกล้ๆ วัดเซ็นโคจิมากมาย ทำให้คุณสามารถเลือกที่พักให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้ โดยมีทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ รวมถึงโรงแรมบางแห่งในบริเวณวัดเซ็นโคจิ

shukubo-ryoshoin

ชูคุโบะ


แนวทางการพักแรมใกล้กับเซ็นโคจิอย่างแท้จริงวิธีหนึ่งคือการเข้าพักค้างคืนในชูคุโบะ ซึ่งเป็นโรงแรมแบบดั้งเดิมที่เตรียมไว้สำหรับผู้เดินทางแสวงบุญไปที่วัด ชูคุโบะเป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแท้จริงทั้งภายในและภายนอก ถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการใช้เวลาพักผ่อนในนากาโนะให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการหลีกเลี่ยงโรงแรมธุรกิจทั่วไป แม้ว่าชูคุโบะจะมีกฎเกณฑ์มากกว่าที่พักทั่วไป แต่ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์แบบดั้งเดิม และทำเลที่ตั้งภายในบริเวณวัดเซ็นโคจิก็เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเข้าร่วมพิธีช่วงเช้าที่จะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ สำหรับวิธีที่ง่ายที่สุดในการพักในที่แห่งนี้ โปรดดูทัวร์ของเราด้านบน ซึ่งรวมถึงทัวร์แบบมีไกด์นำทางที่วัดเซ็นโคจิและกิจกรรมอื่นๆ ในนากาโนะ รวมถึงการเข้าพักในชูคุโบะ

Kokusai-Presidential Suite

โรงแรมโคคุไซ 21


สำหรับที่พักสไตล์ตะวันตกสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดเซ็นโคจิ โคคุไซ21 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ โรงแรมขนาดใหญ่แห่งนี้สร้างขึ้นสำหรับรองรับโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะปี 1998 มีห้องพักหลากหลายสไตล์ รวมถึงห้องสวีทหรูหรากว้างขวาง และยังมีร้านอาหารหลายแห่งรวมทั้งอาหารญี่ปุ่น จีน และตะวันตก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่มาคนเดียว คู่รัก หรือครอบครัวกลุ่มใหญ่ นี่เป็นคำแนะนำตามปกติของเราสำหรับทุกคนที่ต้องการที่พักในนากาโนะ เนื่องจากทัวร์หลายรายการของเรามีบริการรับส่งโดยตรงจากโคคุไซ รวมถึงทัวร์วัดเซ็นโคจิและสวนลิงหิมะ จึงสะดวกอย่างยิ่งสำหรับแขกของเราที่จะพักที่นี่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมและขอใบเสนอราคา กรุณาคลิกที่แบนเนอร์ด้านบน

ทัวร์และรถเช่าเหมา เยี่ยมเยือนวัดเซ็นโคจิ


zenkoji-temple

ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการทัวร์ที่ได้รับคะแนนสูงสุดประจำจังหวัดนากาโนะ เราภูมิใจนำเสนอทัวร์มากมาย รวมถึงโปรแกรมการเยี่ยมชมวัดเซ็นโคจิ ไกด์ที่เป็นมิตรและมีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของเรา พร้อมที่จะช่วยให้คุณท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ดีที่สุดด้วยคำอธิบายที่เจาะลึกและคำแนะนำที่มีความรู้ ด้วยทัวร์หมู่คณะ ทัวร์ส่วนตัว และการเช่าเหมาลำส่วนตัว บริษัทของเรามั่นใจว่ามีสิ่งที่พร้อมตอบสนองความต้องการคุณ

หนึ่งในทัวร์หมู่คณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเรา วันสำคัญนี้คุณจะได้เยี่ยมชมวัดเซ็นโคจิ ชิมสาเกที่โรงเบียร์ท้องถิ่น เพลิดเพลินกับอาหารกลางวันสไตล์ญี่ปุ่น และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ชมลิงหิมะแห่งจิโกคุดานิ! เหมาะสำหรับทุกวัยและทุกคน ไม่มีวิธีใดที่จะดีไปกว่านี้ในการชมสิ่งที่ดีที่สุดของนากาโนะภายในวันเดียว และหากนั่งรถไฟหัวกระสุนเพื่อไปต่อยังจุดนัดพบที่สถานีนากาโนะ คุณอาจสามารถเข้าร่วมทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวได้ ในช่วงฤดูหนาวมีบริการไปรับจากฮาคุบะ ทำให้เป็นวิธีง่ายๆ ในการเพลิดเพลินกับวันหยุดเล่นสกีโดยไม่ยุ่งยาก

สำหรับกลุ่มใหญ่หรือผู้ที่ต้องการเคลื่อนไหวด้วยตนเอง ทัวร์ส่วนตัวที่เซ็นโคจิและสวนลิงหิมะจะเหมาะสมอย่างยิ่ง ด้วยแผนการเดินทางที่คล้ายคลึงกับทัวร์หมู่คณะข้างต้น และรวมถึงการแวะพักในเมืองโอบุเสะที่มีเสน่ห์ ทัวร์นี้ครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณต้องการจากหนึ่งวันในเมืองนากาโนะ ด้วยบริการรับส่งจากจุดหมายปลายทางหลายแห่ง เหมาะสมมากสำหรับการทำให้วันของคุณสมบูรณ์แบบ

สำหรับผู้ที่ต้องการทำความรู้จักกับวัดเซ็นโคจิอย่างแท้จริง ทัวร์นี้ได้รวมการพักค้างคืนที่ชูคุโบะหรือโรงแรมแสวงบุญซึ่งเหมาะกับการสำรวจ เพราะตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดเซ็นโคจิและบริเวณโดยรอบ คุณจะได้สัมผัสกับภาพ เสียง และรสชาติของวัดเก่าแก่หลายศตวรรษแห่งนี้ จองตอนนี้เพื่อเลือกห้องพักก่อนใคร!

Charter-Bus

นอกจากนี้เรายังมีบริการเช่าเหมาลำส่วนตัวเต็มรูปแบบ โดยใช้ยานพาหนะที่สะอาดและทันสมัย ร่วมกับพนักงานขับรถที่เป็นมิตรและผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี จะช่วยรับคุณจากจุดต่างๆ และพาคุณไปส่งยังสถานที่ที่ต้องการ (โดยเฉพาะในภูมิภาคญี่ปุ่นตอนกลาง!) แม้ว่าการขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่นจะไร้ที่ติ แต่บริการแบบ door-to-door ของเรา จะช่วยขจัดความยุ่งยากในการรีบเปลี่ยนรถไฟ หรือการขนสัมภาระขึ้นลงบันได โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและวันเวลาที่ว่าง

ข้อมูล

+81-(0)26-234-3591

9:30 - 16:30

ทุกวัน

ฟรี

ขับรถประมาณ 50 นาทีจากสวนลิงจิโกคุดานิ

จากสถานีนากาโนะ: ออกจากสถานีจากทางออกเซ็นโคจิ และโดยสารรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังวัดเซ็นโคจิ ลงที่ป้ายรถบัสเซ็นโคจิแล้วจึงเดินขึ้นเนินไปยังบริเวณวัด

การเดินทาง

Other เมืองนากาโนะและโทงะคุชิ Pages

วางแผนท่องเที่ยว

ทัวร์

ที่พัก

ข้อมูล

+81-(0)26-234-3591

9:30 - 16:30

ทุกวัน

ฟรี

ขับรถประมาณ 50 นาทีจากสวนลิงจิโกคุดานิ

จากสถานีนากาโนะ: ออกจากสถานีจากทางออกเซ็นโคจิ และโดยสารรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังวัดเซ็นโคจิ ลงที่ป้ายรถบัสเซ็นโคจิแล้วจึงเดินขึ้นเนินไปยังบริเวณวัด

การเดินทาง

วัดเซ็นโคจิ

สอบถาม

ที่พัก

เหมาลำ

ทัวร์