30 สิ่งน่าทำรอบๆ ฮอกไกโด & สถานที่พักแรม
ฮอกไกโดเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์มากที่สุดของญี่ปุ่น เพราะมีทั้งสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในเอเชีย อุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ เมืองสมัยใหม่และเมืองที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ และแน่นอนว่าเป็นอาหารทะเลที่ดีที่สุดในโลก แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาเยอะหน่อยในการเดินทางไปถึง แต่ก็เป็นพื้นที่ท่มักจะอยู่ในโปรแกรมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่นเสมอ โดยในหน้าเว็บไซต์นี้ คุณจะได้พบข้อมูลต่อไปนี้:
— สถานที่พักแรมยอดเยี่ยมในฮอกไกโด
— สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในฮอกไกโด
— วางแผนการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของคุณ
ฮอกไกโดถูกแยกออกจากเกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่นด้วยช่องแคบสึการุ เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวรองรับทุกรูปแบบ ฮอกไกโดเป็นที่อยู่อาศัยของชาวพื้นเมืองไอนุมาอย่างยาวนาน และถูกนำมาอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในช่วง ‘ยุคเมจิ’ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมืองท่าเรือที่สำคัญต่างๆ ทั้งโอตารุและฮาโกดาเตะ ก็ได้เชื่อมต่อฮอกไกโดและญี่ปุ่นเข้ากับนักค้าขายจากทั่วมุมโลก พร้อมกันนั้นเมืองซัปโปโรก็ได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจากการตั้งถิ่นฐานเล็กๆ สู่ตำแหน่งเมืองใหญ่อันดับ 5 ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน
ฮอกไกโดมีไฮไลท์มากมายให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม เริ่มจากฤดูหนาวที่ยาวนานและหนาวเย็น ทำให้สกีรีสอร์ทที่ฮอกไกโดจะมีหิมะที่หนาที่สุด และสภาพดีที่สุดในโลก กระทั่งเข้าสู่ช่วงที่อบอุ่นขึ้นของฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ก็จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาสำรวจอุทยานแห่งชาติ ฟาร์มดอกไม้ และภูมิประเทศชนบทอันแสนงดงาม แน่นอนว่าอาหารทะเลและอาหารอื่นๆ ที่โดดเด่นของฮอกไกโดก็ยังสามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี รวมถึงสามารถพบเหล่านกกระเรียนมงกุฎแดง ที่พากันเต้นระบำสวยงามได้ตลอดทั้งปี แม้ว่าส่วนใหญ่จะนิยมท่องเที่ยวได้มากที่สุดในฤดูหนาว แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงไฮไลท์ที่ดีที่สุดที่ควรทำเมื่อมาเยือนฮอกไกโด เรามาเริ่มด้วยคำถามยอดนิยมดังนี้:
ฮอกไกโดอยู่ที่ไหน?
ฮอกไกโดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในบรรดา 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น และเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตั้งตัวอยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่างโตเกียว โยโกฮาม่า โอซาก้า และนาโกย่า ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่น ดังนั้นการเดินทางไปยังฮอกไกโดที่ง่ายที่สุดจึงเป็นการนั่งเครื่องบิน ไปลงที่สนามบินนิวจิโตเสะ ซึ่งอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 1.5 ชั่วโมง พร้อมกับบริการรถไฟชินคันเซ็น / ‘รถไฟหัวกระสุน’ ขยายเส้นทางผ่านอาโอโมริ ไปตามรถไฟสายฮอกไกโด มุ่งสู่สถานีชิน-ฮาโกดาเตะ ถึงสถานีโฮคุโตะ เมืองซัปโปโรเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเกาะ ควรเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งเป็นหลัก เนื่องจากที่นี่มีสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในเอเชีย รวมถึงอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่างไดเซ็ตสึซัง และชิเระโทโกะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮอกไกโดควรมองหาจุดที่จะออกไปนอกเมืองและสำรวจมุมมองใหม่ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ผ่านภูมิประเทศที่ห่างไกลและเต็มไปด้วยป่าเขา
กิจกรรมยอดเยี่ยมที่ฮอกไกโด
ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ฮอกไกโดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น และเป็นภูมิภาคที่มีภูมิทัศน์ป่าไม้เปิดโล่ง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู มีฤดูหนาวที่หนาวเย็นยาวนาน ตามมาด้วยฤดูร้อนที่สั้นและน่ารื่นรมย์ ไม่ว่าคุณจะมาท่องเที่ยวช่วงไหน ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวที่ฮอกไกโดก็คือการได้ออกไปข้างนอกเพื่อเพลิดเพลินกับสกีรีสอร์ทระดับโลก อุทยานแห่งชาติ ภูมิทัศน์ชนบท และวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวไอนุ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเริ่มต้นการเดินทางในเมืองซัปโปโรที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด ที่ขึ้นชื่อในด้านอาหาร เครื่องดื่ม และสถานบันเทิงยามค่ำคืน ถือว่าเป้นสถานที่คุ้มค่าแก่การสำรวจก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ธรรมชาติ:
1 / เยี่ยมเยียนเมืองซัปโปโร / ตลอดทั้งปี
ซัปโปโรเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโดและเมืองใหญ่อันดับ 5 ในญี่ปุ่น แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่อายุน้อยที่สุดของญี่ปุ่น แต่ชาวไอนุพื้นเมืองของฮอกไกโดก็ได้ตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่นี้เมื่อกว่า 15,000 ปีที่แล้ว (ควรสำรวจวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจและแตกต่างกันขณะอยู่ที่ฮอกไกโด – ดูเพิ่มเติมได้ที่ หัวข้อ ’11 / พิพิธภัณฑ์ไอนุแห่งชาติอุโปโปย’ ที่ด้านล่าง ในฐานะเมืองหลักของฮอกไกโด , ซัปโปโรมีไฮไลท์มากมายให้เยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นอาหารและเครื่องดื่มที่เจริญรุ่งเรือง แหล่งช้อปปิ้ง สวนสาธารณะ และกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเทศกาลหิมะซัปโปโร – ดูด้านล่าง
ซัปโปโรมีอาคารเก่าแก่ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากตะวันตกที่น่าประทับใจ สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างรวดเร็วตั้งแต่สมัยเมจิในตอนที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศสู่โลกกว้าง และรวมถึงพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร โรงงานเดิมแห่งนี้เปิดในปี 1877 โดยอ้างว่าเป็นแหล่งกำเนิดเบียร์ในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของโรงเบียร์ สามารถเข้าร่วมทัวร์ได้พร้อมกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และการชิมเบียร์ แต่แน่นอนว่า ฮอกไกโดมีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องของฤดูหนาวและกิจกรรมสำคัญประจำปี:
2 / เทศกาลหิมะซัปโปโร / กุมภาพันธ์
เทศกาลหิมะซัปโปโรจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1950 โดยจะจัดขึ้นทุกเดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลหิมะซัปโปโรได้รับการจัดอันดับให้เป็นกิจกรรมฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดงานหนึ่งในญี่ปุ่น เทศกาลนี้รู้จักกันในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า ‘さっぽろ雪まつり/ ซัปโปโร ยูกิ มัตสึริ’ โดยกินเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถูกจัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ในเมือง รวมถึงสถานที่จัดกิจกรรม โอโดริ, ซุซุกิโนะ, และสึโดม เทศกาลนี้มีชื่อเสียงมาจากประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะขนาดใหญ่ ซึ่งบางชิ้นมีความสูงถึง 15 เมตร พร้อมเส้นผ่านศูนย์กลาง 25 เมตร คุณจะได้พบกับประติมากรรมขนาดใหญ่มากกว่าสิบชิ้นที่บริเวณโอโดริ พร้อมด้วยรูปปั้นหิมะขนาดเล็กอีกเกือบร้อยชิ้น โดยที่ซุซูกิโนะจะมีรูปปั้นเล็กๆ ประมาณหนึ่งรูปปั้น ในขณะที่สึโดมจะมีรูปปั้น รวมถึงกิจกรรมซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว อย่างเช่น การนอนลงบนหิมะและการล่องแพหิมะ ที่โอโดริและซุซุกิโนะ จะมีการประดับไฟทุกวัน จนถึงเวลา 22:00 และที่สึโดมจะเปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 09:00 – 17:00
3 / เที่ยวกลางคืนที่ซุซูกิโนะ / ตลอดทั้งปี
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางใต้ของสถานีซัปโปโร และสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุดจากสถานีซุซูกิโนะ ย่านซุซูกิโนะเป็นแหล่งรวบรวมร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และความบันเทิงหลักของเมือง คุณจะได้พบกับร้านอาหารมากมายในบริเวณนี้ที่เสิร์ฟอาหารทะเล ราเม็ง และเนื้อแกะย่างเจงกีสข่านที่มีชื่อเสียงประจำฮอกไกโด มีถนนช้อปปิ้งและศูนย์กลางหลายแห่งในซุซูกิโนะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จัดแสดงประติมากรรมในช่วงเทศกาลหิมะที่โด่งดังของเมือง และสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเพลิดเพลินกับซัปโปโรยามค่ำคืน คุณจะได้พบกับบาร์และร้านนั่งดื่มอื่นๆ มากมายที่นี่
4 / อาหารทะเลที่ฮอกไกโด / ตลอดทั้งปี
ในประเทศที่ชื่นชอบอาหารทะเล ไม่มีที่ใดจะมีชื่อเสียงมากไปกว่าฮอกไกโด น้ำเย็นที่อยู่รอบๆ เกาะ ทำให้เกิดทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และกลายเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น ‘คานิ’ (ปู), ‘อิกะ’ (ปลาหมึก), ‘อูนิ’ (หอยเม่น), ‘โฮตาเตะ’ (หอยเชลล์) และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยความที่มีร้านอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วประเทศ ทำให้ไม่ประสบปัญหาในการหาที่กินข้าว รวมไปถึงตลาดอาหารทะเล เช่น ตลาดนิโจในซัปโปโร และตลาดเช้าของฮาโกดาเตะ มีข้าว ‘ดงบุริ’ (ข้าวราดหน้าต่างๆ) ที่ราดหน้าด้วยอาหารทะเล ถือเป็นวิธีที่ดีในการลองชิมอาหารที่มีให้เลือกมากมาย โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามคุณภาพและปริมาณของปลา
5 / ‘ราเม็ง’ ฮอกไกโด / ตลอดทั้งปี
‘ราเม็ง’ เป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีชื่อเสียงและโด่งดังที่สุดของฮอกไกโด สามารถพบได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นโดยมีหลายเมืองและภูมิภาคที่อ้างว่าเป็นสูตรท้องถิ่น ที่ซัปโปโรเองก็มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำซุปที่ทำจาก ‘มิโซะ’ ในขณะที่พื้นที่อื่นๆ ของฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องน้ำซุปเกลือ ราเม็งถือเป็นอาหารและอีกรูปแบบหนึ่งที่แพร่หลายมากที่สุดในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนในขณะที่อยู่ในซัปโปโรและฮอกไกโดก็จะได้พบกับร้านราเม็งแน่นอน โดยมีหลายร้านที่เปิดทั้งช่วงดึกดื่นและเช้าตรู่ เพื่อบริการให้แก่เหล่านักดื่มและผู้ที่ออกไปข้างนอกช่วงสายได้ทานเป็นมื้อเช้า
6 / โอตารุ / ตลอดทั้งปี
โอตารุเป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงเรื่องของพื้นที่คลอง และมีโกดังที่ถูกทำเป็นอาคารร้านค้าตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 – 20 แม้ว่าการค้าขายที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยโกดังสินค้า จะย้ายไปยังท่าเรือที่ทันสมัยกว่ามานานแล้ว แต่บริเวณคลองแห่งนี้ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามโดยปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และพิพิธภัณฑ์ที่ช่วยให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับอย่างเพลิดเพลินจากซัปโปโร ใช้เวลาเพียง 35 นาทีโดยรถไฟ เมื่อไปถึงแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นริมคลองพร้อมกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซาไคมาจิ และถนนช้อปปิ้งยอดนิยมของโอตารุ สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และจะดีที่สุดในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น ซึ่งก็คือช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม
7 / โรงกลั่นวิสกี้ นิกกะ / ตลอดทั้งปี
โรงกลั่นวิสกี้นิกะ ก่อตั้งขึ้นที่เมืองโยอิจิในปี 1934 เป็นหนึ่งในโรงกลั่นเหล้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และปัจจุบันคุณสามารถเยี่ยมชมโรงกลั่นแห่งนี้ได้ ผ่านเครื่องบรรยายเสียง ไกด์ภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่นๆ หรือซื้อทัวร์พร้อมไกด์ที่ดำเนินการเป็นภาษาญี่ปุ่น จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเพื่อแนะนำประวัติของโรงกลั่นและพิพิธภัณฑ์ก่อนที่จะสิ้นสุดด้วยการชิมวิสกี้ สามารถลองชิมและซื้อของขึ้นชื่อจากโรงกลั่นนิกกะได้ ที่แห่งนี้เปิดตลอดทั้งปี – ยกเว้นช่วงปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม – 7 มกราคม – ให้บริการตั้งแต่เวลา 09:00 น. – 16:00 น. โรงกลั่นอยู่ในระยะที่สามารถเดินได้จากสถานีโยอิจิ ประมาณ 25 – 45 นาที จากสถานีโอตารุ และระหว่าง 1.5 – 2 ชั่วโมงโดยรถไฟจากสถานีซัปโปโร
8 / เยี่ยมเยียนโรงไวน์ในโยอิจิ / ดีที่สุดช่วง: พฤษภาคม – พฤศจิกายน
ฮอกไกโดเป็นหนึ่งใน 4 แหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และสำหรับผู้มาเยือนที่มุ่งหน้าไปที่นั่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ – ฤดูใบไม้ร่วง การเยี่ยมชมโรงบ่มไวน์แห่งหนึ่งในโยอิจิ จะทำให้การเดินทางวันเดียวจากซัปโปโร โอตารุ หรือนิเซโกะ กลายเป็นเรื่องง่ายดาย พื้นที่โยอิจิตั้งอยู่บนชายฝั่ง เป็นที่ตั้งของโรงบ่มไวน์หลายแห่ง เช่น โรงไวน์โยอิจิ, โรงไวน์นิกิฮิลส์, โดเมนอิจิ, โดเมนยุอิ และอื่นๆ อีกมากมาย แม้ว่าไวน์ญี่ปุ่นจะยังไม่ค่อยมีชื่อเสียงในประเทศผู้ผลิตไวน์อื่นๆ แต่ก็มีมรดกที่สืบทอดมายาวนานเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ ด้วยโรงบ่มไวน์สองแห่งที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติเมื่อเร็วๆ นี้ จึงเหลือแค่การรอเวลาให้อุตสาหกรรมของญี่ปุ่นจะเติบโตมากขึ้นจนไปถึงระดับโลกเท่านั้น ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น สถานีโยอิจิอยู่ห่างจากสถานีโอตารุ 25 – 45 นาที, 45 นาทีจากสถานีคุตจัง (สถานีที่ใกล้ที่สุดไปยังนิเซโกะ) และ 1.5 – 2 ชั่วโมงจากสถานีซัปโปโร โรงบ่มไวน์เหล่านี้กระจายอยู่ทั่วบริเวณโยอิจิ ทำให้จำเป็นต้องเรียกแท็กซี่จากสถานีหรือเช่ารถขับเอง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดไวน์ที่กำลังเติบโตของญี่ปุ่น โปรดดูหน้า ‘คู่มือไวน์ญี่ปุ่น: ภูมิภาคและข้อมูลสำคัญ’ ของเรา
9 / คาบสมุทรชาโคตัน / ตลอดทั้งปี
เดินทางเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี แต่จะสนุกที่สุดในฤดูร้อน คาบสมุทรชาโคตันใช้เวลาขับรถประมาณ 2 – 2.5 ชั่วโมงไปทางตะวันตกของซัปโปโร เป็นแนวชายฝั่งยาว 42 กม. ที่มีทิวทัศน์ขรุขระแต่สวยงาม ทะเลรอบคาบสมุทรแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ นิเสะโกะ-ชาโคตัน-โอตารุไคกัน โดยเป็นอุทยานทางทะเลแห่งเดียวในฮอกไกโดที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีคามุยมิซากิ (แหลมคามุย) เป็นจุดเด่นของพื้นที่ โดยให้ทัศนียภาพกว้างไกลเหนือน้ำทะเลสีฟ้าครามอันบริสุทธิ์ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งของคาบสมุทรที่เรียกว่าชายฝั่งชิมามุย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ยอดนิยม พื้นที่ชาโคตันยังมีการตกปลาที่น่าภาคภูมิใจ โดยมีชื่อเสียงมากจากเหล่า ‘อูนิ’ (เม่นทะเล) ที่สามารถรับประทานได้สดๆ ที่ร้านอาหารและในตลาดท้องถิ่น ถ้าต้องการใช้เวลาท่องเที่ยวบนคาบสมุทรชาโคตันให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเช่ารถและขับรถไปเองถือเป็นทางเลือกที่ดี
10 / โจซันเคย์ ออนเซ็น / ตลอดทั้งปี
โจซังเคย์ออนเซ็น อยู่ห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโรไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 30 กม. เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ใกล้ที่สุดจากเมืองที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด มีโรงแรมและที่พักขนาดใหญ่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีบ่อน้ำพุร้อนในตัว นอกจากนี้ ‘เรียวกัง’ (โรงแรมแบบญี่ปุ่นโบราณ) หลายแห่งยังเปิดให้ผู้มาเยี่ยมชมแบบไปเช้าเย็นกลับได้ใช้ ‘ออนเซ็น’ ภายในโรงแรมได้ โดยมีราคาระหว่าง 500 – 2,000 เยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนตุลาคมซึ่งมีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามในบริเวณรอบๆ โปรดจองล่วงหน้า หากคุณต้องการเยี่ยมชมในช่วงเวลานั้นของปี วิธีเดินทาง ให้ขึ้นรถบัสโจเซ็ตสึหมายเลข 7 หรือหมายเลข 8 จากสถานีขนส่งซัปโปโร – ประมาณ 75 นาที / 790 เยน หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือการขับรถไปเอง ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ รอบๆ ฮอกไกโดได้
11 / อุโปโปย พิพิธภัณธ์แห่งชาติชาวไอนุ / ตลอดทั้งปี
ตั้งอยู่ทางใต้ของซัปโปโร ไม่ไกลจากสนามบินนิวจิโตเสะและโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น พิพิธภัณฑ์ไอนุแห่งชาติ อุโปโปย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหมายและคุ้มค่าที่สุดของฮอกไกโด ไอนุเป็นชนพื้นเมืองทางตอนเหนือของญี่ปุ่น โดยอาศัยอยู่ที่ฮอกไกโด ที่หมู่เกาะคูริเล ซากาลิน และพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชูมาอย่างยาวนาน ประเพณีของชาวไอนุมีความแตกต่างทางวัฒนธรรมจากชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่เป็นแบบ ‘ยามาโตะ’ โดยสิ่งเหล่านั้นได้รับการส่งเสริมและอนุรักษ์โดยพิพิธภัณฑ์ไอนุแห่งชาติอุโปโปยในเมืองชิราโออิ อยู่ห่างจากซัปโปโรไปทางใต้ประมาณ 100 กม. ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยอาคารนิทรรศการขนาดใหญ่ ที่มีทั้งนิทรรศการแบบถาวรและแบบพิเศษ รวบรวมประวัติประเพณี ความเชื่อ และวิถีชีวิตของชาวไอนุ และพื้นที่โดยรอบประกอบด้วยบ้านและอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ ถูกใช้สำหรับเวิร์กช็อปงานฝีมือ การเต้นรำและการแสดงดนตรี โดยตั้งอยู่ริมทะเลสาบโปโรโต
พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันตั้งแต่ 09:00 – 18:00 (เปิดถึง 20:00 น. ในวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ฤดูร้อน และเปิดถึง 17:00 น. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม) ต้องจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ โดยมีค่าใช้จ่าย 1,200 เยนต่อคน การจะเดินทางไปที่นั่น ให้ใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษจากสถานีซัปโปโรไปยังสถานีชิราโออิ ใช้เวลาประมาณ 70 นาที หรือเพียง 40 นาทีจากสถานีสนามบินนิวจิโตเสะ
12 / โนโบริเบ็ตสึออนเซ็น / ตลอดทั้งปี
โนโบริเบ็ตสึออนเซ็นอยู่ห่างจากอุโปโปย โดยใช้เวลาขับรถเพียง 30 นาที และประมาณ 2 ชั่วโมงจากซัปโปโร เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด โนโบริเบ็ตสึเป็นที่รู้จักดีที่สุดจาก ‘จิโกคุดานิ’ หรือ ‘หุบเขานรก’ ที่น่าทึ่ง ซึ่งเป็นช่องระบายไอน้ำภูเขาไฟและน้ำกำมะถันที่กว้างใหญ่จนน่าพิศวง รวมถึงโอยุนุมะ บ่อน้ำที่สวยงามตระการตาแต่อันตราย เพราะมีอุณหภูมิพื้นผิวถึง 50°C
แม่น้ำไหลจากโอยุนุมะเข้าสู่ป่า สามารถเดินตามทางน้ำไปได้ จนเมื่อน้ำเริ่มเย็นลงเล็กน้อยแล้ว ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะถอดรองเท้าและแช่เท้าในกระแสน้ำออนเซ็นตามธรรมชาติ ในส่วนของที่พัก โนโบริเบ็ตสึออนเซ็นมีตัวเลือกมากมายให้เลือก ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ถึงขนาดกลาง ที่พักแต่ละแห่งจะมีบ่อน้ำพุร้อนภายในโรงแรม ซึ่งมาจากแหล่งน้ำที่แตกต่างกันถึง 11 แหล่งที่กระจายอยู่ทั่วเมือง หลายๆ ที่อนุญาตให้ผู้มาเยี่ยมชมแบบไปเช้าเย็นกลับใช้ห้องอาบน้ำได้ โดยเรียกเก็บเงินระหว่าง 700 – 2,000 เยน สำหรับการเข้าใช้บริการ แม้ว่าส่วนใหญ่จะสงวนไว้สำหรับการใช้งานเฉพาะของแขกค้างคืนก็ตาม
โนโบริเบ็ตสึมีบริเวณภูเขาไฟ ดังนั้นความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะคอยให้คำแนะนำและคำเตือนแบบถ่ายทอดสดทั้งประเทศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมพื้นที่เหล่านี้ เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบเว็บไซต์ต่อไปนี้ เสียก่อน
13 / ทะเลสาบโทยะ และโทยาโกะออนเซ็น / ตลอดทั้งปี
ทะเลสาบโทยะ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติชิโกะสึ-โทยะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามตามฤดูกาล เส้นทางเดินป่า ตกปลา ตั้งแคมป์ และน้ำพุร้อน ภูเขาอุสุตั้งอยู่ทางใต้ของทะเลสาบ หลังจากปะทุขึ้นสี่ครั้งในช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ล่าสุดในปี 2000 คุณสามารถเข้าถึงภูเขาอุสุได้โดยใช้กระเช้าลอยฟ้าอุสุซัง นอกจากนี้ยังมีโชวะชินซัง และปล่องภูเขาไฟอุสุซังตะวันตก ซึ่งสามารถเดินไปได้ตามเส้นทางเดินป่าที่คดเคี้ยว สถานีโทยะเป็นสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดไปยังทะเลสาบ และสามารถเดินทางไปยังบริเวณบ่อน้ำพุร้อนของโทยาโกะออนเซ็นได้โดยการขึ้นรถสาธารณะภายใน 20 นาที (หรืออาจะนานกว่าขึ้นอยู่กับความยาวของทะเลสาบ และจุดที่คุณต้องการไปเที่ยว) บริเวณนี้มีโรงแรมหรูหลายแห่งริมชายฝั่งทะเลสาบ โดยทุกแห่งมีน้ำพุร้อนในตัว การล่องเรือให้บริการจากบริเวณทะเลสาบนี้ และมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมยอดนิยมที่สุดของโทยะตั้งอยู่ไม่ไกล
ภูเขาอูสุนั้นถือเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่มอดดับ ดังนั้นความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะคอยให้คำแนะนำและคำเตือนแบบถ่ายทอดสดทั้งประเทศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมพื้นที่เหล่านี้ เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบเว็บไซต์ต่อไปนี้ เสียก่อน
14 / ฮาโกดาเตะ / ตลอดทั้งปี
เมืองฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่เกือบตอนใต้สุดของฮอกไกโด เป็นจุดเข้าและออกสำหรับผู้ที่เดินทางมายังเกาะโดยนั่งชินคันเซ็น รถไฟสายฮอกไกโดจะวิ่งไปไกลถึงสถานีชิน-ฮาโกดาเตะ โฮคุโตะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 15 นาทีเพื่อไปยังใจกลางฮาโกดาเตะ ฮาโกดาเตะเป็นหนึ่งในเมืองแรกๆ ของญี่ปุ่นที่เปิดให้การค้าระหว่างประเทศในช่วงการฟื้นฟูในยุคเมจิ เป็นเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าที่สำคัญมายาวนาน มีมรดกย่านการค้าต่างประเทศที่สะท้อนมาจากอดีตอย่างโมโตมาจิ รวมถึงสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตก รัสเซีย และจีน และโกเรียวคาคุที่โดดเด่น – ดูรายละเอียดได้ที่ด้านล่าง – ฮาโกดาเตะมีชื่อเสียงในเรื่อง “ราเม็ง” เช่นเดียวกับซัปโปโร ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องรสเค็มเล็กน้อย มักเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายทะเลหรืออาหารทะเลแทนเนื้อไก่และหมู มี ‘อาไซจิ’ หรือ ‘ตลาดเช้า’ ของฮาโกดาเตะ ที่เปิดทำการทุกวันตลอดทั้งปีตั้งแต่เวลา 05:00 น. – 12:00 น. (หรือตั้งแต่ 06:00 น. ในฤดูหนาว) ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับราเมนยามเช้าหรือลองอาหารทะเลที่โดดเด่นของฮอกไกโด
15 / สวนโกเรียวคาคุ / ตลอดทั้งปี
ป้อมโกเรียวคาคุในฮาโกดาเตะสร้างขึ้นในปีสุดท้ายของยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากมหาอำนาจยุโรป รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะไม่เคยีโอกาสได้ใช้ตามนั้น แต่ก็เป็นสถานที่ของการสู้รบครั้งสุดท้ายในสงครามโบชิน (พ.ศ. 2411-2412) ซึ่งกองกำลังจักรวรรดินิยมของรัฐบาลเมจิเอาชนะกองกำลังสุดท้ายของรัฐบาลโชกุนโทคุงาวะ อาคารขนาดใหญ่แห่งนี้ถูกดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะในปี 1910 ปัจจุบันมีต้นซากุระมากกว่าหนึ่งพันต้น ทำให้ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่สวยงามเป็นพิเศษในการมาเยี่ยมชม สามารถเข้าสวนสาธารณะได้ตลอดเวลาตลอดทั้งปีและไม่มีค่าใช้จ่าย
16 / สกี &สโนว์บอร์ด นิเสะโกะ / ธันวาคม – เมษายน
ฮอกไกโดมีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่เล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่ดีที่สุดในเอเชีย รวมถึงสภาพหิมะที่ดีและหนาที่สุดในโลก นิเสะโกะยูไนเต็ด เป็นรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด โดยเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น นิเสะโกะตั้งอยู่ห่างจากซัปโปโรไปทางทิศตะวันตกประมาณ 100 กม. / 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ ประกอบด้วยรีสอร์ทที่เชื่อมต่อกัน 4 แห่ง ได้แก่ ฮานาโซโนะ แกรนด์ฮิราฟุ หมู่บ้านนิเสะโกะ และอันนุปูริ ซึ่งปกคลุมด้วยเส้นทางผ่านภูเขาทั้งหมด และมีพื้นที่ที่ห้าคือ สกีรีสอร์ทนิเซโกะ โมอิวะ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ ผ่านทางพื้นที่ชนบท นิเสะโกะนั้นถือเป็นสกีรีสอร์ทระดับนานาชาติและระดับไฮเอนด์ที่สุดของญี่ปุ่น ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มีขนาดใหญ่ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น โดยมีพื้นที่ 325 เฮกตาร์ หิมะเป็นผงที่น่าอัศจรรย์ (ด้วยปริมาณมหาศาล) รวมถึงที่พัก สถานบันเทิงยามค่ำคืน และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น มุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวที่มาเพียงลำพัง และชาวต่างชาติ
17 / สกี & สโนว์บอร์ด รุสุทสึ / ธันวาคม – เมษายน
รุสุทสึตั้งอยู่ห่างจากนิเสะโกะไปทางทิศตะวันออก 40 นาที รุสุทสึได้รับการจัดอันดับให้เป็นสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดของฮอกไกโด แผ่กระจายไปทั่วภูเขาเล็กๆ สามลูก ซึ่งจริงๆ แล้วมีขนาดเล็ก แต่ละลูกมีความยาวไม่ถึง 1,000 เมตร รุสุทสึเป็นรีสอร์ทที่มีพื้นที่ราบต่ำ แต่มีหิมะจำนวนมากในทุกปี หลายๆ คนมักจะพูดว่าหิมะที่นี่เป็นละเอียดดีที่สุดของญี่ปุ่น และยิ่งไปกว่านั้น รุสุทสึยังเป็นรีสอร์ทเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด มีพื้นที่ประมาณ 236 เฮกตาร์ พร้อมพื้นที่นอกเส้นทางที่เข้าถึงได้มากขึ้น ถือว่าเป็นรีสอร์ทที่มีพร้อมในทุกแง่มุม ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมนอกฤดูหนาวได้มากขึ้นด้วยสวนสนุกกลางแจ้ง ที่เปิดให้บริการเฉพาะในฤดูร้อน รวมถึงโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งที่จัดเตรียมไว้อย่างดีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ครอบครัว และตลาดระดับไฮเอนด์
18 / สกี & สโนว์บอร์ด คิโรโระ / ธันวาคม – เมษายน
คิโรโระ สกีรีสอร์ท หรือ ‘คิโรโระ สโนว์เวิลด์’ ตั้งอยู่ห่างจากนิเสะโกะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 60 นาที มีพื้นที่แผ่กระจายไปทั่วภูเขา 2 ลูก และพื้นที่เล่นสกี 4 แห่งที่สามารถเพลิดเพลินไปกับหิมะที่หนาที่สุดในฮอกไกโดได้ ที่นี่เป็นรีสอร์ทขนาดกลางที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี โดยมีโรงแรมระดับไฮเอนด์หลายแห่ง รวมถึงมีพื้นที่ชนบทและเขตทุรกันดารที่ยอดเยี่ยม กิจกรรมสำหรับเด็กและบริการสำหรับครอบครัวมากมาย รวมถึงตัวเลือกที่พักดีๆ ทำให้ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ยอดเยี่ยมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย
19 / สกี & สโนว์บอร์ด ฟุราโนะ / ธันวาคม – เมษายน
ฟุราโนะสกีรีสอร์ท อยู่ห่างจากซัปโปโรไปทางทิศตะวันออกประมาณ 115 กม. / 2 ชั่วโมง และห่างจากนิเสะโกะที่โดงดัง มากกว่า 200 กม. / 4 ชั่วโมง ถือเป็นรีสอร์ทยอดนิยมของผู้คนจำนวนมากในฮอกไกโด ฟุราโนะตั้งอยู่ลึกเข้าไปมากกว่านิเสะโกะ รุซุทสึ และคิโรโระ ด้วยระดับความสูงที่ค่อนข้างต่ำ ฟุราโนะจึงไม่ได้รับปริมาณหิมะมากเท่าที่ควร แต่ก็ยังมีฤดูกาลที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก ณ ความสูงเฉลี่ย 9 เมตร และเนื่องจากอยู่ห่างจากชายฝั่ง โดยทั่วไปหิมะจึงมีลักษณะเป็นผงแห้ง สำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่ยอดเยี่ยม ด้วยภูมิประเทศที่พอเหมาะและการวิ่งระยะไกล รวมถึงฝั่งที่ยอดเยี่ยมและเขตทุรกันดาร ฟุราโนะได้รับการพัฒนาน้อยกว่ารีสอร์ทอย่างนิเสะโกะ แต่ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ท้องถิ่นไว้ ปราศจากการพัฒนาให้กลายเป็นรีสอร์ทระดับสูงอย่างนิเสะโกะ แต่จะมุ่งเน้นไปตามสภาพทางธรรมชาติเนินเขาและบนต้นไม้
20 / สกี & สโนว์บอร์ด โทมามุ / ธันวาคม – เมษายน
ตั้งอยู่ห่างจากสกีรีสอร์ทฟุราโนะไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 1.5 ชั่วโมง โทมามุเป็นรีสอร์ทขนาดกลางที่มีหิมะคุณภาพดีและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสำหรับครอบครัว บริหารงานโดยกลุ่มโฮชิโนะ รีสอร์ท โทมามุเหมาะสมกับการเป็น ‘รีสอร์ท’ ในทุกแง่มุม ทั้งอาคารโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีร้านอาหารระดับไฮเอนด์ และสระน้ำมีคลื่นในร่มขนาด 50 เมตร สะท้อนให้เห็นว่าโทมามุไม่ได้มีแค่หิมะเท่านั้น โดยที่นี่เป็นรีสอร์ทที่เปิดตลอดทั้งปีเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ อาจไม่ได้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าทุกรูปแบบ แต่โฮชิโนะ รีสอร์ท โทมามุ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทในฮอกไกโดที่มีหิมะเป็นผงละเอียด ซึ่งคุ้มค่าที่จะไปเยี่ยมชม
21 / ฤดูสีเขียวในนิเสะโกะ / มิถุนายน – ตุลาคม
หน้าที่อบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง มีไฮไลท์หลายอย่างสำหรับการมาเยือนนิเสะโกะพอๆ กับฤดูหนาว โดยมีโรงแรมและร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมในพื้นที่ พร้อมด้วยกิจกรรมช่วงฤดูสีเขียวมากมาย เรือกอนโดลาหลายแห่งของนิเสะโกะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนภูเขานิเซโกะ-อันนุปุริ ซึ่งมีเส้นทางเดินป่าที่เปิดกว้าง และปั่นจักรยานเสือภูเขา การล่องแก่งมีให้บริการในแม่น้ำชิริเบ็ตสึ พร้อมกับกีฬาขี่ม้าและตีกอล์ฟอันเป็นที่นิยมในสมัยก่อน กิจกรรมเล่นแคนยอน โหนสลิง และเดินป่าบนต้นไม้ เหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาความสนุกสนานมากมายขณะอยู่ในฮอกไกโด โรงแรมระดับไฮเอนด์และหรูหราทุกแห่งในนิเสะโกะเปิดให้บริการตลอดทั้งปี โดยนำเสนอการผสมผสานที่น่าดึงดูดใจของการผจญภัย การผ่อนคลาย และการปล่อยวางจิตใจให้แก่เหล่านักท่องเที่ยว
22 / ปีนภูเขาโยเทย์ / ดีที่สุด: กรกฎาคม – ตุลาคม
ใครก็ตามที่มาเยือนนิเสะโกะ จะสังเกตเห็นรูปร่างทรงกรวยของภูเขาโยเทย์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูมิทัศน์เบื้องล่างได้ ภูเขานี้ถูกเรียกว่า ‘โยเทย์ซัง’ ในภาษาญี่ปุ่น โดยแท้จริงแล้วเป็นภูเขาไฟที่ตั้งตระหง่านซึ่งมีความสูง 1,898 เมตร มีเส้นทางทั้งหมดสี่เส้นทางนำไปสู่ยอดเขา ได้แก่ เส้นทาง ฮิราฟุ/คุทจัง, เส้นทางเคียวโกคุ, เส้นทางคิโมเบ็ตสึ และเส้นทางมัคคาริ โดยคิโมเบ็ตสึถือเป็นเส้นทางที่เร็วที่สุดแต่ยากที่สุด และมัคคาริเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด การเดินจะใช้เวลา 7 – 9 ชั่วโมง (ไป-กลับ) ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่คุณเดินและระดับความฟิตของร่างกาย แม้ว่าการเดินป่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงพอสมควร แต่อย่าลืมสวมรองเท้าและเสื้อผ้าที่เหมาะกับอุณหภูมิที่ร้อน รวมทั้งหมวก และพกน้ำและอาหารปริมาณมากๆ ขึ้นไปด้วย เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นช่วงเวลาที่สวยงามเป็นพิเศษของปีในการเดินป่าขึ้นโยเทย์ ท่ามกลางดอกไม้บนเทือกเขาแอลป์ที่บานสะพรั่ง หากคุณสนใจการเดินป่า เพียงพูดคุยกับที่พักของคุณเกี่ยวกับตัวเลือกเส้นทาง วิธีการเดินทาง และตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง
ภูเขาโทเทย์นั้นเป็นภูเขาไฟที่ยังคงไม่มอดดับ ดังนั้นความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะคอยให้คำแนะนำและคำเตือนแบบถ่ายทอดสดทั้งประเทศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมพื้นที่เหล่านี้ เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบเว็บไซต์ต่อไปนี้ เสียก่อน
23 / ทุ่งดอกไม้ฟุราโนะ / ดีที่สุดช่วง: มิถุนายน – สิงหาคม
แม้ว่าฟุราโนะจะมีชื่อเสียงในเรื่องการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่ยอดเยี่ยมในฤดูหนาว แต่ก็ยังมีชื่อเสียงในเรื่องทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยงามในฤดูร้อนอีกด้วย โดยมีฟาร์มและสถานที่หลายแห่งรอบๆ ให้เดินเล่นท่ามกลางดอกไม้ต่างๆ ทั้งทุ่งลาเวนเดอร์ฟุราโนะ สวนดอกไม้นากะฟุราโนะ ฟาร์มโทมิดะ ลาเวนเดอร์ตะวันออก และอื่นๆ ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายที่สุดจากสถานีลาเวนเดอร์ฟาร์มและสถานีนากะฟุราโนะ ปกติลาเวนเดอร์จะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และจะบานเต็มที่ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม ดอกไม้อื่นๆ เช่น ดอกป๊อปปี้ ดอกลิลลี่ และดอกทานตะวันจะบานตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน
24 / สำรวจบิเอย์ / ดีที่สุดช่วง: มิถุนายน – ตุลาคม
บิเอย์เป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับฟุราโนะ เป็นที่รู้จักในด้านความสวยงามของทุ่งดอกไม้และทิวทัศน์ชนบท ถนนสองสายที่รู้จักกันดี ได้แก่ “ถนนปะติดปะต่อ” และ “ถนนพาโนรามา” อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสำรวจพื้นที่ด้วยจักรยานหรือรถยนต์ และตามชื่อของถนน บิเอย์มีทิวทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างทุ่งดอกไม้ ฟาร์ม และทิวทัศน์ชนบท ทำให้ถือเป็นที่นิยมในหมู่ช่างภาพมืออาชีพกับเหล่าผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ โดยสามารถเดินทางไปถึงบริเวณนี้ได้จากสถานีบิเอย์ โดยที่ด้านนอกสถานี มีร้านให้เช่าจักรยานรวมทั้งจักรยานไฟฟ้าอีกด้วย
25 / อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง / ตลอดทั้งปี
ไดเซตสึซังตั้งอยู่ใจกลางฮอกไกโด เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีพื้นที่ 226,764 เฮกตาร์ ซึ่งมีขนาดพอๆ กับจังหวัดคานากาวะ ประกอบด้วยกลุ่มภูเขาภูเขาไฟ 3 กลุ่มที่มียอดเขา 16 ยอด สูงกว่า 2,000 เมตร รวมถึงภูเขาอาซาชิดาเกะ – ดูรายละเอียดด้านล่าง แม้ว่าระดับความสูงเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 เมตร แต่ละติจูดที่สูงกว่าของฮอกไกโด ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรวมจะคล้ายกับพื้นที่เทือกเขาแอลป์ 3,000 เมตรที่พบในเกาะหลักฮอนชู
ไดเซตสึซัง จะมีหิมะที่ตกหนักและอุณหภูมิที่เย็นจัดในฤดูหนาว โดยที่ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ถือเป็นสถานที่เดินป่าที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีทั้งพืชอัลไพน์และสัตว์ป่าหลายร้อยสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นหมีสีน้ำตาลฮอกไกโด กวางเอโซ ชิกะ และปิกะญี่ปุ่นที่น่ารัก อุทยานแห่งชาติมีพื้นที่บ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง เช่น อาซาฮิดาเกะออนเซ็น โคเก็นออนเซ็น โซอุนเคียวออนเซ็น โทคาจิดาเกะออนเซ็น และเทนนินเกียวออนเซ็น ทำให้การหาที่พักเมื่อมาเที่ยวเป็นเรื่องง่ายดายมาก ไดเซ็ตสึซังมีฤดูหนาวที่ยาวนาน โดยปกติจะกินเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม – มิถุนายน โดยมีฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วงสั้นๆ ตั้งแต่กลางถึงปลายเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนตุลาคมเท่านั้น ในเดือนกันยายนเป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในการเยี่ยมชม เนื่องจากมีสวนสาธารณะที่มีสีสันสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง ตามมาด้วยหิมะที่เริ่มแรกของญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซึง มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่หลายแห่ง ดังนั้นความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะคอยให้คำแนะนำและคำเตือนแบบถ่ายทอดสดทั้งประเทศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมพื้นที่เหล่านี้ เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบเว็บไซต์ต่อไปนี้ เสียก่อน
26 / ภูเขาอาซาฮิดาเกะ และอาซาฮิดาเกะออนเซ็น / ตลอดทั้งปี
ภูเขาอาซาชิดาเกะ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไดเซตสึซังที่กว้างขวาง คือภูเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด โดยมีความสูงถึง 2,290 เมตร สามารถเดินทางเข้าถึงต้นน้ำตอนบนของภูเขาได้อย่างง่ายดายด้วยกระเช้าลอยฟ้าอาซาฮิดาเกะที่วิ่งจากอาซาฮิดาเกะออนเซ็น ถือเป็นเมืองน้ำพุร้อนขนาดเล็กที่ประกอบด้วยโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งและบ้านพักอีกหลายสิบหลัง การนั่งกระเช้าลอยฟ้าไปยังสถานีด้านบนจะทำให้คุณเดินขึ้นสู่ยอดเขาได้ภายใน 2 ชั่วโมง มีฤดูกาลเดินป่าอย่างเป็นทางการ เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน แต่ในช่วงเดือนตุลาคม – เดือนพฤษภาคม ภูเขาจะมีหิมะตกหนัก ซึ่งหมายความว่าหากคุณต้องการเดินป่า คุณจะต้องใช้อุปกรณ์แบบพิเศษ เวลาให้บริการของกระเช้าลอยฟ้าจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล แต่โดยทั่วไปจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 06:00 – 18:00 ในช่วงฤดูร้อน และ 09:00 น. – 16:00 ในช่วงฤดูหนาว โดยออกเดินทางทุก ๆ 15 – 20 นาที (ปิดตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม) ราคาเองก็แตกต่างกันไปตามฤดูกาล – 3,200 เยนสำหรับเดือนมิถุนายน – ตุลาคม และ 2,200 เยนสำหรับเดือนธันวาคม – เดือนพฤษภาคม
ภูเขาอาซาฮิดาเกะ เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ดังนั้นความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะคอยให้คำแนะนำและคำเตือนแบบถ่ายทอดสดทั้งประเทศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมพื้นที่เหล่านี้ เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบเว็บไซต์ต่อไปนี้ เสียก่อน
27 / ชมนกกระเรียนมงกุฎแดง / ตลอดทั้งปี
นกกระเรียนมงกุฎแดงอันโด่งดังของฮอกไกโด หรือที่เรียกว่า ‘ทันโจ’ ในภาษาญี่ปุ่น เป็นนกที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องดูเมื่อมาเยือนเกาะฮอกไกโด นกกระเรียนขนาดใหญ่มีความสูงถึง 1.6 เมตร และมีปีกกว้าง 2.5 เมตร เป็นที่รู้จักจากการแสดงการเต้นรำ พวกมันดึงดูดช่างภาพจากทั่วทุกมุมโลก โดยจะสามารถพบเห็นพวกมันได้ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วฮอกไกโด รวมถึงที่ราบคุชิโระ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติคุชิโระ ชิทสึเก็น ฝูงนกจะอยู่ที่นั่นตลอดทั้งปี แต่จะรวมตัวกันเป็นจำนวนมากที่สุดในช่วงฤดูหนาว รับชมการเต้นรำอันวิจิตรบรรจงบนหิมะ เกิดเป็นภาพน่าทึ่งอย่างแท้จริง แม้ว่าจะมีบริการขนส่งสาธารณะวิ่งไปและกลับจากบริเวณนี้ แต่การเข้าถึงได้ง่ายที่สุดก็คือการเช่ารถและขับรถด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาขับรถประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงจากซัปโปโร และ 3.5 – 4.5 ชั่วโมงจากสนามบินนิวจิโตเสะ
28 / อุทยานแห่งชาติอะคัง-มาชู / ตลอดทั้งปี
อะคัง-มาชู ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของที่ราบลุ่มคุชิโระ ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่ยอดเยี่ยมอีกแห่งหนึ่งของฮอกไกโด มีชื่อเสียงจากทะเลสาบที่น่าประทับใจ 3 แห่ง อันได้แก่ทะเลสาบอะคัง ทะเลสาบมาชู และทะเลสาบคุชชาโระ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องความใสของน้ำ ทะเลสาบมาชูมีชื่อเสียงมากที่สุดจากทั้งสามแห่ง โดยบางคนอ้างว่าเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ใสที่สุดในโลก เส้นทางเดินป่าอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินระหว่างจุดชมวิวและยอดเขามาชุดาเกะได้ อย่างไรก็ตาม ไม่อนุญาตให้เข้าถึงชายฝั่งของทะเลสาบ ทะเลสาบคุชชาโระที่อยู่ใกล้เคียงเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในสามแห่ง ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการตกปลา เดินป่า และพายเรือคายัค ในขณะที่ทะเลสาบอะคังที่อยู่ห่างไกลออกไปนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของสาหร่าย ‘มาริโมะ’ สีเขียวสดใส ที่สามารถขยายขนาดได้จนเท่าลูกฟุตบอล ที่พักกระจายอยู่ทั่วอุทยาน สามารถเดินทางไปถึงได้ภายใน 5 – 6 ชั่วโมงจากซัปโปโร
อุทยานแห่งชาติ อะคัง-มาชู ประกอบไปด้วยพื้นที่ภูเขาไฟที่ยังคงไม่มอดดับ ดังนั้นความปลอดภัยส่วนบุคคลของคุณควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจะคอยให้คำแนะนำและคำเตือนแบบถ่ายทอดสดทั้งประเทศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมพื้นที่เหล่านี้ เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบเว็บไซต์ต่อไปนี้ เสียก่อน
29 / อุทยานแห่งชาติ ชิเระโทโกะ / ตลอดทั้งปี
ชิเรโทโกะ เป็นอีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติที่สวยงามและมีความสำคัญทางนิเวศวิทยาของฮอกไกโด ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากสถานะมรดกโลก ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ ชื่อ ‘ชิเรโตโกะ’ มาจากคำภาษาไอนุ แปลว่า ‘จุดสิ้นสุดของโลก’ พื้นที่ของอุทยานส่วนใหญ่จะสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าหรือทางเรือเท่านั้น ทิวทัศน์ชายฝั่งทะเลอันน่าทึ่งและสูงชัน ชิเระโทโกะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก บนบก 36 ชนิด และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล 22 สายพันธุ์ รวมไปถึงหมีสีน้ำตาลฮอกไกโด กวางเยโซชิกะ สิงโตทะเลสเตลเลอร์ วาฬสเปิร์ม และวาฬเพชฌฆาต พร้อมด้วยเหล่านกชนิดต่างๆ อย่างน้อย 285 สายพันธุ์ เช่น นกอินทรีทะเลสเตลเลอร์ และนกอินทรีทะเลหางขาว
ตั้งแต่เดือนเมษายน – ตุลาคม เรือนำเที่ยวจะให้บริการทัวร์จากอุโทโระทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทร ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามอันขรุขระของแนวชายฝั่งและสัตว์ป่า ทัวร์มีระยะเวลาตั้งแต่ 1.5 – 4 ชั่วโมง / 3,300 เยน ถึง 8,800 เยน อุทุโระยังมีที่พักใกล้อุทยานแห่งชาติมากที่สุด โดยใช้เวลาขับรถ 6 – 7 ชั่วโมงจากซัปโปโร
30 / อะบาชิริ & ธารน้ำแข็งโอค็อตสค์ / ดีที่สุดช่วง: กุมภาพันธ์
เมืองชายฝั่งทะเลเล็กๆ อย่างอะบาชิริ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติชิเระโทโกะ และเป็นที่รู้จักในฐานะจุดเริ่มต้นที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ “ธารน้ำแข็งอะบาชิริ” หรือ “กระแสน้ำแข็งโอค็อตสค์” ธารน้ำแข็งสามารถสัมผัสได้ตลอดความยาวชายฝั่งโอค็อตสค์ตอนเหนือของฮอกไกโด แต่จะหนาที่สุดรอบๆ อะบาชิริ น้ำแข็งมักจะเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมกราคม – ปลายเดือนเมษายน และจะน่าทึ่งที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ เรือนำเที่ยวให้บริการท่าเรืออะบาชิริเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับน้ำแข็งหนานอกชายฝั่ง โดยทั่วไปการล่องเรือจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงและมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 เยน
สถานที่พักแรมยอดเยี่ยมในฮอกไกโด
เนื่องจากเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น และเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุด ฮอกไกโดจึงมีที่พักในไม่ขาดสาย หน้า ‘สถานที่พักแรมยอดเยี่ยมในฮอกไกโด’ ของเรา มีคำแนะนำเกี่ยวกับพื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าพัก รวมถึงลิงก์ไปยังรายการที่พักโดยตรง
สกีรีสอร์ทยอดเยี่ยมในฮอกไกโด
สกีรีสอร์ทของฮอกไกโด ถือว่ามีฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น และมีหิมะตกหนักในทุกปี สกีรีสอร์ทของฮอกไกโดติดอันดับหนึ่งในเอเชียสามารถเพลิดเพลินไปกับหิมะที่ละเอียดที่สุดในโลก รีสอร์ทที่รวมกันของนิเสะโกะยูไนเต็ด ถือเป็นลานสกีที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในฮอกไกโด ในขณะที่รุซุทสึและคิโรโระที่อยู่ใกล้เคียงก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายในแบบของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีฟุราโนะและโทมามุที่อยู่ห่างจากชายฝั่งออกไปเล็กน้อย ทำให้หิมะมีลักษณธแห้งกว่าที่ไหนๆ หลายคนอ้างว่ารีสอร์ทเหล่านี้เพลิดเพลินกับแป้งฝุ่นที่ดีที่สุดในโลก ที่หน้า ‘สกีรีสอร์ทยอดเยี่ยมในฮอกไกโด’ ของเรา มีทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับแต่ละแห่ง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางแผนการผจญภัยฤดูหนาวครั้งถัดไปในฮอกไกโด
วิธีเดินทางในและรอบๆ ฮอกไกโด
ฮอกไกโดยืนหนึ่งเพียงลำพังอยู่บนตอนเหนือของเกาะฮอนชู ซึ่งถือเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น การนั่งเครื่องบินไปยังเกาะนี้ถือเป็นตัวเลือกที่เร็วที่สุดเมื่อเดินทางจากจุดเริ่มต้นอย่าง โตเกียว นาโกย่า เกียวโต และโอซาก้า หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือนั่งรถไฟสายฮอกไกโดชินคันเซ็น ไปไกลถึงสถานีชิน-ฮาโกดาเตะ-โฮคุโตะ ทำให้คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟได้ ในหน้า ‘การเดินทางในและรอบๆ ฮอกไกโด’ ของเรา มีข้อมูลทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับวิธีการเดินทางไปยังฮอกไกโด และกาเรดินทางท่องเที่ยวในเมือง
วางแผนการมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของคุณ
แม้ว่าฮอกไกโดจะอยู่ห่างจากโตเกียว โอซาก้า และเกียวโต แต่คุณจะไม่มีปัญหาในการเดินทางไปอย่างแน่นอน เพราะเที่ยวบินและเครือข่ายรถไฟชินคันเซ็น / ‘รถไฟหัวกระสุน’ ที่หน้า ‘วางแผนการท่องเที่ยวของคุณ’ ของเรา มีข้อมูลทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น ตั้งแต่เคล็ดลับเกี่ยวกับเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง การเข้าออกประเทศ สกุลเงิน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่พัก การท่องเที่ยวที่ปลอดภัยเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ และอีกมากมาย เพื่อช่วยให้คุณมีทริปการเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่สุด