ปลายทาง
มัตสึโมโตะและคามิโคจิ
15 กิจกรรมน่าทำที่คามิโคจิ & สถานที่พักแรม

15 กิจกรรมน่าทำที่คามิโคจิ & สถานที่พักแรม

คามิโคจิเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุที่มีขนาดใหญ่ เป็นหุบเขาอัลไพน์สวยงามซึ่งตั้งอยู่ภายในเทือกเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมตั้งแต่เดือนเมษายน – พฤศจิกายน ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางกลางแจ้งที่คุ้มค่าที่สุดในประเทศ โดยในหน้าเว็บไซต์นี้คุณจะได้พบข้อมูลต่อไปนี้:

คามิโคจิอยู่ที่ไหน?

สิ่งที่คาดหวัง & เหตุผลที่คุณควรมาเยี่ยมชม

กิจกรรมน่าทำ & จุดที่ควรเยี่ยมชมในคามิโคจิ

เมื่อมาเยี่ยมเยือนคามิโคจิ: ฤดูกาลที่ดีที่สุด

สถานที่พักแรมในคามิโคจิ

ข้อมูลสำคัญในการเยี่ยมชม & กฎภายใน

วิธีเดินทางไปยังคามิโคจิ

ทัวร์ & รถเหมา ไปยังคามิโคจิ

การไปเยือนคามิโคจิ คุณจะได้เดินทางลึกเข้าไปในพื้นที่ใจกลางภูเขาของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิประเทศแบบเทือกเขาแอลป์ที่เป็นที่รักมากที่สุด คามิโคจิถูกนับถือว่าเป็นอาณาจักรของเทพเจ้ามาอย่างยาวนาน มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่เดินป่าที่ดีที่สุดในประเทศอีกด้วย เส้นทางสบายๆ เลียบแม่น้ำอาซุสะที่สวยงาม ในขณะที่เส้นทางเดินเขาสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่มีความรกชันกว่า จะนำไปสู่ภูเขาต่างๆ ที่มีความสูงกว่า 3,000 เมตร สู่ยอดเขาโฮทากะ ภูเขายาริ และยอดเขาอื่นๆ

เมื่อคุณวางแผนจะมาเยี่ยมชมคามิโคจิ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ควรทราบคือ ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะส่วนตัวเข้ามาในหุบเขา ทำให้ไม่สามารถขับรถไปเองได้ คุณจะต้องโดยสารรถประจำทาง แท็กซี่ หรือทัวร์เพื่อเข้าชมเท่านั้น – ดู ‘ข้อมูลสำคัญสำหรับการเดินทาง’ ที่ด้านล่าง เป็นตัวช่วยเพื่อให้ทริปสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากช่วยให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนรถหลายครั้งเพื่อเข้าสู่คามิโคจิ    

บริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโนะ เราเป็นผู้ให้บริการทัวร์และเช่าเหมาลำอันดับ 1 ประจำภูมิภาค มีทั้งบริการทัวร์แบบหมู่คณะและแบบส่วนตัว พร้อมด้วยตัวเลือกสำหรับการเดินทางและที่พักมากมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เลื่อนไปที่ด้านล่างของหน้าเว็บไซต์

คามิโคจิอยู่ที่ไหน?


คามิโคจิเป็นหุบเขาบนเทือกเขาแอลป์ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติชูบุ ซังกาคุ อยู่บนภูเขาสูง ห่างจากมัตสึโมโต้ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 45 กม. / 70 นาทีเมื่อขับรถยนต์ และ 40 กม. / 60 นาทีจากทาคายามะไปทางทิศตะวันตก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มุ่งหน้าไปคามิโคจิ มักจะเดินทางผ่านที่ใดที่หนึ่งจากสองแห่งนี้ ที่สถานีมัตสึโมโต้ รถบัสสาย Alpico จะวิ่งไปยังสถานีชิน-ชิมะชิมะ ซึ่งมีรถบัสรับส่งผู้โดยสารไปยังสถานีขนส่งคามิโคจิผ่านทางสถานีขนส่งซาวันโดะ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง รวมเวลาเปลี่ยนรถ ในขณะที่รถบัสด่วนวิ่งจากสถานีขนส่งทาคายามะซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีทาคายามะวิ่งไปยังฮิรายุออนเซ็น เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงก็จะต้องเปลี่ยนรถบัสคันที่สองที่มุ่งหน้าไปยังคามิโคจิ ซึ่งใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง จำเป็นต้องมีการควบคุมการเดินทางเข้าถึงอย่างรัดกุม เพื่อเพื่อไม่ให้กระทบกับระบบนิเวศในพื้นที่ และอนุรักษ์ไว้สำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป การห้ามใช้ยานพาหนะส่วนตัว จึงทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมต้องโดยสารผ่านรถโค้ช แท็กซี่ หรือมากับทัวร์เพื่อเข้าถึงคามิโคจิ – ดู ‘ข้อมูลสำคัญสำหรับการเยี่ยมชม’ ด้านล่าง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

สิ่งที่คาดหวัง & เหตุผลที่คุณควรมาเยี่ยมชม


kamikochi-banner-edit

คามิโคจิเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุที่มีขนาดใหญ่ โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น คามิโคจิเป็นหุบเขาบนเทือกเขาแอลป์ที่ทอดยาวไปตามแม่น้ำอาซุสะ ซึ่งไหลลงมาจากแหล่งน้ำด้านบนภูเขาสูงสู่พื้นเบื้องล่าง ระยะทาง 18 กม. จากเหนือจรดใต้ คามิโคจิมีระดับความสูงระหว่าง 1,200 – 1,400 เมตร โดยมียอดเขาโฮทากะ (3,190 ม.) ภูเขายาริ (3,180 ม.) และภูเขายาเกดาเกะ (2,455 ม.) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือหุบเขา คามิโคจิถือเป็นหนึ่งในภูมิประเทศทางธรรมชาติที่โดดเด่นและเป็นเขตอนุรักษ์พิเศษภายในอุทยานแห่งชาติ เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับการเดินเล่นสบาย ๆ ไปตามเส้นทางที่หลากหลาย รวมทั้งการเดินป่าแบบจริงจังหลายวันขึ้นไปบนภูเขา หรือเพียงแค่นั่งดื่มกาแฟ ของว่าง หรือ รับประทานอาหารและดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์อันงดงามพร้อมบรรยากาศอันเงียบสงบ คามิโคจิมีที่พักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่โรงแรมระดับสูง บ้านพักบนภูเขา ไปจนถึงการตั้งแคมป์ค้างแรม

kamikochi

คามิโคจิได้รับการยอมรับมายาวนานในด้านความสำคัญทางนิเวศวิทยาและความงามตามธรรมชาติ โดยเป็นแบบอย่างที่สำคัญในการบูชาธรรมชาติแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของศาสนาพื้นเมืองของศาสนาชินโต ชื่อของคามิโคจิ สามารถแปลได้ว่า ‘สถานที่ที่เทพเจ้าเสด็จลงมา’ โดยมีภูเขาโฮทากะและลักษณะทางธรรมชาติอื่นๆ มากมายในหุบเขา ที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่แห่งความจงรักภักดี ตามหลักศาสนาชินโตเชื่อว่า ‘คามิ’ (พระเจ้า) มีส่วนร่วมอยู่ในทุกด้านของโลกรวมถึงในชีวิตของเรา โดยแสดงให้เห็นอย่างสวยงามผ่านทิวทัศน์ภูเขา น้ำตก แม่น้ำ ตลอดจนต้นไม้ หิน และลักษณะทางธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าเกรงขาม ด้วยเหตุนี้ คามิโคจิจึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางกลางแจ้งที่คุ้มค่าที่สุดในญี่ปุ่น

กิจกรรมน่าทำ & จุดที่ควรเยี่ยมชมในคามิโคจิ


ผู้มาเยือนคามิโคจิส่วนใหญ่จะลงรถที่สถานีขนส่งคามิโคจิ จากนั้นเดินต่ออีกไม่นาน (ไม่เกิน 5 นาที) เพื่อตรงไปยังกัปปะบาชิ (สะพานกัปปะ) ซึ่งเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดในหุบเขา สะพานช่วงสั้นข้ามแม่น้ำอาซุสะ ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาโฮทากะที่มียอดสามยอดอยู่ด้านหลัง นักท่องเที่ยวจำนวนมากมักจะกระจุกอยู่บริเวณนั้น ซึ่งทำให้มักมีผู้คนพลุกพล่านอยู่ตลอด แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่! สิ่งสำคัญในการไปเยือนคามิโคจิคือการได้เดินเล่นไปตามเส้นทางใดก็ได้ เพียงแค่ออกห่างจากกัปปะบาชิแค่ 5 – 10 นาที ก็จะทำให้คุณห่างไกลจากฝูงชนและเพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ที่สวยงามอย่างแท้จริงได้แล้ว ความนิยมของคามิโคจิมีมากมาย ดังนั้นเรามาเริ่มกันที่:

1 / กัปปะบาชิ (สะพานกัปปะ)


kamikochi-kappabashi

กัปปะบาชิหรือ “สะพานกัปปะ” อยู่ห่างจากสถานีขนส่งคามิโคจิ กับบริเวณที่มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และโรงแรมหลายแห่งโดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที กัปปะบาชิเป็นสะพานแขวนขนาดเล็กที่ทอดข้ามแม่น้ำอาซุสะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์ของภูเขาโฮตากะที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง และถ่ายภาพไฮไลท์ที่จุดนั้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดในคามิโคจิ และจากทั้งสองฝั่งของแม่น้ำคุณจะพบร้านกาแฟ ร้านอาหาร และโรงแรมตั้งอยู่มากมาย ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่พลุกพล่านที่สุดในคามิโคจิ

kamikochi

ผู้เยี่ยมชมจำนวนมากมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ที่นี่ แต่อย่าปล่อยให้เรื่องนั้นทำให้คุณกังวล สะพานกัปปะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการมาเยือนคามิโคจิ เพียงแค่เดินเล่นออกไปไกลสัก 5 – 10 นาทีจากสะพานกัปปะไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ก็จะทำให้คุณหลุดห่างจากฝูงชนออกมาได้แล้ว

2 / แม่น้ำอาซุสะ


kamikochi

คามิโคจิเคลื่อนตัวไปตามแม่น้ำอาซุสะขณะที่ไหลลงมาจากแหล่งกำเนิดในภูเขาด้านบนสู่พื้นเบื้องล่าง น้ำในแม่น้ำใสและเป็นสีฟ้าอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้ที่นี่ถือเป็นไฮไลท์ของการมาเยือน สามารถชื่นชมแม่น้ำนี้ได้จากหลายจุดในหุบเขา โดยการเดินจากไทโชอิเกะไปยังกัปปะบาชิถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง ในการเพลิดเพลินกับการเดินที่ทอดยาวไปตามริมฝั่งแม่น้ำ – ดูรายละเอียดด้านล่าง

3 / ภูเขาโฮทากะ


kamikochi

ภูเขาโฮทากะมีความสูงถึง 3,190 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับสามของญี่ปุ่น ตามหลังภูเขาคิตะ (3,193 เมตร) ซึ่งเป็นอันดับสองไปแค่เพียง 3 เมตรเท่านั้น โฮทากะมีอีกชื่อหนึ่งว่าโอคุ-โฮทากะ-ดาเกะ มียอดเขาสามยอดที่มีความสำคัญทางจิตวิญญาณสำหรับชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก เพราะว่ากันว่าเป็นที่ที่เทพเจ้าเสด็จลงมายังโลก ตามชื่อของคามิโคจิที่สามารถแปลได้ว่า ‘สถานที่ที่เทพเจ้าเสด็จลงมา’ ปัจจุบันมีสถานบูชาเทพเจ้าหรือวิญญาณ กระจายอยู่ใต้ร่มเงาของภูเขาสูงตระหง่านและบนยอดเขามากมาย เส้นทางหลายเส้นทางนำไปสู่ยอดเขาและแนวสันเขา โดยใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมงในการไปถึงยอด และกลับมาสู่จุดเริ่มต้น การปีนเขาที่นี่ถือเป็นกิจกรรมที่ท้าทาย ซึ่งจำเป็นต้องตั้งแคมป์ค้างคืน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสมรรถภาพร่างกายและประสบการณ์ปีนเขาเท่านั้น หรือจะเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาจากหุบเขาเบื้องล่างก็ได้เช่นกัน

4 / ภูเขายาเกดาเกะ


kamikochi-chubu-sangaku-national-park

ภูเขายาเกดาเกะ (2,455 ม.) เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่มอดดับ ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของคามิโคจิ ภูเขาไฟยาเกดาเกะเกิดการปะทุครั้งสุดท้ายในปี 1915 ลาวาไหลและดินถล่มที่ตามมาได้ปิดกั้นเส้นทางไหลของแม่น้ำอาซุสะจนกลายเป็นเขื่อนธรรมชาติ ในปัจจุบันถูกเรียกว่าไทโชอิเกะ ไอน้ำมักจะลอยขึ้นมาจากบริเวณด้านบนของภูเขา สามารถเดินเขาขึ้นไปได้บนเส้นทาง 5.5 – 6 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงพอสมควร

5 / ไทโชอิเกะ (เขื่อนไทโช)


kamikochi

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นไทโชอิเกะ เกิดขึ้นในปี 1915 หลังจากการปะทุของภูเขายาเกดาเกะ ทำให้เกิดลาวาและดินถล่มลงกั้นแม่น้ำอาซุสะ เป็นการกำเนิดอันน่าทึ่งของภูมิทัศน์ที่สวยงามที่เราเห็นในปัจจุบัน ตอนนี้ไทโชอิเกะเป็นหนึ่งในลักษณะเด่นที่คามิโคจิชื่นชอบมากที่สุด ในวันที่อากาศแจ่มใส บนผิวน้ำจะสะท้อนภาพภูเขาด้านบนอย่างสวยงามราวกับกระจก เป็นอีกไฮไลท์อันน่าทึ่งที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้เมื่อเดินทางเข้าสู่หุบเขาเป็นครั้งแรก รวมถึงระหว่างการเดินจากไทโชอิเกะไปยังกัปปะบาชิอีกด้วย – ดูรายละเอียดด้านล่าง

6 / บึงดาเกะซาวะ


kamikochi-chubu-sangaku-national-park

บึงดาเกะซาวะอยู่ห่างจากทางเหนือของสะพานกัปปะ โดยใช้เวลาเดินเพียง 10 – 15 นาที เป็นจุดที่สวยงามตลอดเส้นทางไปยังเมียวจิน-อิเกะ ทางเดินไม้ยกสูงและดาดฟ้าชมวิวตลอดเส้นทางนี้ ทำให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับภูมิทัศน์อันบริสุทธิ์รอบๆ ตัว รวมถึงผืนน้ำที่สวยงามของบึง

7 / เมียวจิน-อิเกะ (บ่อน้ำเมียวจิน) & ศาลเจ้าโฮทากะ


kamikochi

เมียวจิน-อิเกะอยู่ห่างจากสะพานกัปปะไปทางเหนือประมาณ 1 – 1.5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดของคามิโคจิ ที่นั้นจะมีศาลเจ้าโฮทากะตั้งอยู่ด้านหน้าเมียวจิน-อิเกะ ถูกสร้างไว้เพื่อเป้นการอุทิศให้กับเหล่า ‘คามิ’ (เทพเจ้า) ซึ่งเชื่อกันว่าอาศัยอยู่บนภูเขาด้านบน บ่อน้ำแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำที่ใสกระจ่าง และความงามอันเงียบสงบ

kamikochi

น้ำของเมียวจิน-อิเกะจะถูกเติมเต็มจากหิมะที่ละลายไปในแต่ละปี มีความสวยงามอย่างน่าทึ่ง และเป็นสถานที่สักการะในตัวของมันเอง สามารถชื่นชมความสวนงามของบึงดาเกะซาวะ และเมียวจินอิเกะ ได้พร้อมๆ กันจากระยะของสะพานกัปปะ – ดูรายละเอียดด้านล่าง

8 / บริเวณโทคุซาวะ & สะพานชินมุระ


kamikochi-hiking

นักท่องเที่ยวที่ต้องการเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในหุบเขาที่ยาวที่สุด และผู้ที่ต้องการเดินป่าเพื่อขึ้นไปชมวิวที่ภูเขาด้านบน จำเป็นต้องเดินไปทางเหนือตามแนวแม่น้ำอาซุสะ ตรงไปสู่พื้นที่โทคุซาวะ ผ่านเส้นทางเลียบแม่น้ำ และจะได้พบกับพื้นที่ตั้งแคมป์และที่พักในโทคุซาวะ ตามด้วยสะพานชินมูระ และเส้นทางเพิ่มเติมที่นำไปสู่พื้นที่ที่เรียกว่าโยโค ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินป่าขึ้นภูเขาโฮกาตะ ภูเขายาริ และภูเขาอื่นๆ ถ้าคุณเดินมาไกลถึงขนาดนี้ได้ เราก็ขอแนะนำให้พักค้างคืนในคามิโคจิหรือบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากการจะได้ผจญภัยลึกเข้าไปในหุบเขาแห่งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องใช้เวลาเต็มวันในการสัมผัสจริงๆ

9 / ภูเขายาริ


kamikochi-yari

ภูเขายาริตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,180 เมตร เป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น สามารถเข้าถึงได้จากจุดเริ่มต้นเส้นทางของพื้นที่โยโคในคามิโคจิ ซึ่งใช้เวลาเดินหลายชั่วโมงจากสะพานกัปปะ ทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของภูเขาแห่งนี้มีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่เตรียมพร้อมตะเดินลึกเข้าไปในหุบเขา ผู้ที่ต้องการปีนหุบเขายาริจะได้เดินไปบนเส้นทาง 40 กม. โดยใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมง และจำเป็นต้องพักค้างคืน เช่นเดียวกับเส้นทางที่มุ่งหน้าขึ้นภูเขาโฮทากะ จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์ปีนเขาและร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้น

10 / ใบไม้เปลี่ยนสีที่คามิโคจิ


kamikochi-autumn-banner-edit

คามิโคจิเป็นที่รู้จักทั่วประเทศญี่ปุ่นในเรื่องสีสันอันแสนตระการตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สามารถเพลิดเพลินได้ในทุกพื้นที่ของหุบเขา เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน – ปลายเดือนตุลาคม การเดินเลียบแม่น้ำจะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับสีส้มแดงของใบไม้ที่น่าอัศจรรย์ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดฝูงชนจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมอาจมีผู้คนพลุกพล่านมาก ดังนั้นหากคุณมุ่งหน้าไปที่นั่นในช่วงเวลาดังกล่าว ให้พยายามไปในวันธรรมดาที่มีนักท่องเที่ยวไม่มาก

11 / สัตว์ป่าภายในคามิโคจิ


raicho-bird-wildlife

ขณะที่อยู่ในคามิโคจิ คุณอาจพบกับเหล่าสัตว์ป่ามากมายที่อาศัยอยู่ในหุบเขาและอุทยานแห่งชาติที่กว้างขวาง ทั้งลิง กวาง หมี และนกนานาชนิด สามารถพบเห็นได้ในคามิโคจิ รวมถึง ‘ไรโจ’ (นกสายฟ้า) หรือที่มักเรียกกันติดปากว่า ‘นกธันเดอร์เบิร์ด’ เป็นนกอัลไพน์ที่เจริญเติบโตในบริเวณเทือกเขาสูง ด้วยพฤติกรรมตามธรรมชาติแล้วพวกมันจะค่อนข้างกลัวมนุษย์ หากคุณโชคดีพอได้พบพวกมัน ก็อาจถ่ายภาพอันน่าอัศจรรย์ของนกเหล่านี้ได้

kamikochi-monkey

คุณจะได้พบกับเหล่าลิง (หรือลิงแสมญี่ปุ่น) ตลอดเส้นทางที่ไปและกลับจากเมียวจิน-อิเกะ ขณะที่หมีดำเอเชียมักจะอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาจึงไม่ค่อยได้พบเห็นเท่าไรนัก แต่สิ่งสำคัญคือควรรู้เอาไว้ว่ามันอาศัยในนั้น และเคารพพื้นที่อาณาเขตของมัน นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินเข้าไปในพื้นที่ที่พลุกพล่านน้อยกว่าของคามิโคจิมักจะสวมกระดิ่งหมี ที่หาซื้อได้ตามร้านค้าหลายแห่งรอบสถานีขนส่งหรือแถวๆ สะพานกัปปะ เมื่อเดินทางเข้าไปป้ายตามเส้นทางจะแจ้งเตือนข้อมูลการพบเห็นหมีครั้งล่าสุด หมีมักจะไม่ค่อยทำอะไรมนุษย์ ดังนั้นคุณก็ไม่ควรจะโจมตีหรือตอบโต้กับพวกมันก่อน แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ให้สงบสติอารมณ์และค่อยๆ เดินถอยกลับไปตามทางที่คุณมา

12 / เดินเล่น: จากไทโชอิเกะ ไปยังสะพานกัปปะ / 1 – 1.5 ชั่วโมง


kamikochi-autumn

การเดินไปตามเส้นทางนี้ค่อนข้างง่าย สามารถทำได้สำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงพอสมควร ทางเดินนี้อยู่ในระดับที่สมบูรณ์พร้อมด้วยทิวทัศน์อันงดงามของไทโชอิเกะ ยาเกดาเกะ โฮทากะ และแม่น้ำอาซุสะ รวมถึงการเดินผ่านป่าและพื้นที่เปิดโล่งบนเส้นทางที่ได้รับการดูแลอย่างดี และทางเดินยกสูงที่เรียกว่า ‘เส้นทางการวิจัยธรรมชาติ’ เมื่อเริ่มต้นการเดินจากไทโชอิเกะ คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของคามิโคจิ นั่นก็คือภูเขาโฮทากะซึ่งมียอดเขาสามยอดที่ตั้งตระหง่านเหนือหุบเขา โดยในวันที่อากาศแจ่มใสจะสะท้อนภาพภูเขาลูกนี้บนผิวน้ำอย่างงดงาม จากนั้นเส้นทางจะนำคุณไปสู่พื้นที่ป่าที่มีแสงน้อยลง และมีทางน้ำที่ใสบริสุทธิ์ ความใสของน้ำนั้นน่าทึ่งมาก พืชน้ำเขียวขจีที่อยู่ใต้ผิวน้ำเองก็เป็นภาพที่น่าหลงใหล ระหว่างทางเดินก็จะได้พบกับพื้นที่เปิดโล่งเป็นระยะๆ ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาได้โดยรอบ ที่บริเวณกึ่งกลางของทางเดิน คุณจะได้ผ่านสะพานโฮทากะ/ทาชิโระ ซึ่งจะพาไปยังริมฝั่งแม่น้ำฝั่งตรงข้ามที่มีโรงแรมและบ้านพักหลายแห่ง ถือเป้นสิ้นสุดการเดินที่กัปปะบาชิ

13 / เดินเล่น: จากสะพานกัปปะ ไปยังเมียวจินอิเกะ / เต็มระยะ = 2.5 – 3.5 ชั่วโมง


kamikochi-myojin

จากสะพานกัปปะ เราแนะนำให้เดินไปตามเส้นทางบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอาซุสะซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของคุณ แต่จริงๆ แล้วถูกเรียกว่าเส้นทางแม่น้ำอาซุสะฝั่งขวา เพราะแม่น้ำจะไหลไปในทิศทางตรงกันข้ามกับทางเดิน โดยคุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์อันกว้างไกลของภูเขาโฮทากะ และแม่น้ำที่ส่องประกายระยิบระยับเบื้องล่างทันที ตามเส้นทางจะผ่านป่าเย็นสบายและอยู่เหนือทางน้ำที่บริสุทธิ์ รวมถึงหนองน้ำอาเกะซาวะ ก่อนที่จะลึกกลับเข้าไปในป่า จนในที่สุดก็มาถึงเมียวจินอิเกะและศาลเจ้าโฮทากะ เส้นทางนี้ได้รับการดูแลอย่างดีและมีทางเดินยกระดับบางส่วน แม้ว่าพื้นส่วนใหญ่จะมีส่วนที่เป็นเนินหรือไม่สม่ำเสมอบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับผู้ที่มีความฟิตพอ การเดินในส่วนนี้จะใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาเพลิดเพลินไปกับบ่อน้ำและศาลเจ้า โดยคุณสามารถมุ่งหน้ากลับไปตามเส้นทางเดิมหรือข้ามสะพานเมียวจิน แล้วเดินตามเส้นทางตะวันออกที่สั้นกว่าและตรงกว่ากลับไปยังสะพานกัปปะ การเดินไปกลับครบวงจรจะใช้เวลา 2.5 – 3.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจังหวะการเดินของคุณ และช่วงเวลาที่คุณต้องการอยู่ที่เมียวจิน-อิเกะ

14 / เดินเล่น: จากสะพานกัปปะ ไปยังบริเวณโทคุซาวะ / เต็มระยะ = 5-6 ชั่วโมง


kamikochi

การเดินป่าไปยังบริเวณโทคุซาวะ จะทำให้คุณห่างไกลจากฝูงชนและไปยังพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง หากต้องการเข้าถึงพื้นที่โทคุซาวะ เพียงเดินตามเส้นทางจากคัปปะบาชิไปยังสะพานเมียวจิน – ได้จากทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ – และเมื่อไปถึงแล้ว ให้เข้าสู่เส้นทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำอาซุสะ (โปรดอย่าลืมว่าแม่น้ำไหลในทิศทางตรงกันข้าม ดังนั้นนี่คือเส้นทาง ทางด้านขวามือเมื่อเดินออกจากสะพานกัปปะ) และเดินต่ออีก 50 – 60 นาทีสุดท้าย ไปยังบริเวณโทคุซาวะ ทางเดินส่วนนี้จะค่อนข้างชัดเจนว่าต้องเดินไปยังทิศทางไหน เพราะที่อีกฝั่งของแม่น้ำจะไม่มีเส้นทาง โดยทางเดินบริเวณนี้จะมีลักษณะเป็นลูกคลื่นมากกว่า ต้องอาศัยความฟิตและความคล่องตัวที่ดีจึงจะผ่านได้ เมื่อถึงพื้นที่โทคุซาวะ คุณจะได้พบกับพื้นที่ตั้งแคมป์และที่พัก การพักค้างคืนก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณเดินมาไกลขนาดนี้แล้ง และหากเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะได้พบกับจุดเริ่มต้นเส้นทางสู่ภูเขาด้านบนใกล้กับสะพานชินมุระ รวมถึงเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาโฮทากะและภูเขายาริ

15 / เข้าร่วมกับทัวร์


kamikochi-chubu-sangaku-national-park

มีบริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโนะ เปิดให้บริการตลอดทั้งปี เรามีบริการทัวร์ที่เริ่มต้นและสิ้นสุด ณ สถานีมัตสึโมโต้และสถานีนากาโนะ รวมโปรแกรมการเยี่ยมชมคามิโคจิเข้ากับจุดหมายปลายทาง พร้อมกิจกรรมที่คุ้มค่าที่สุดในภูมิภาค ไฮไลท์ 1 วันในญี่ปุ่นตอนกลางของเรา ได้แก่: ปราสาทมัตสึโมโต้ ทัวร์หุบเขาอัลไพน์ และคามิโคจิ จะพาคุณไปยังปราสาทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งในเมืองมัตสึโมโต้ ตามด้วยการเยี่ยมชมคามิโคจิในช่วงบ่าย

สำหรับแขกที่มาจากทาคายามะ เราก็มีทัวร์ที่รองรับซึ่งเริ่มต้นจากสถานีทาคายามะ และรวมโปรแกรมการเดินทางไปยังคามิโคจิพร้อมกับการเยี่ยมชมพื้นที่ประวัติศาสตร์ของภูมิภาคฮิดะภายในหนึ่งวันที่เต็มไปด้วยความสุขทางธรรมชาติและวัฒนธรรม

สำหรับแขกที่ต้องการสัมผัสกับความงามตามธรรมชาติของคามิโคจิ พร้อมเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของเมืองใหญ่ได้อย่างสะดวก เรายังมีทัวร์ 1 วันจากนาโกย่าที่จะพาคุณไปยังคามิโคจิ รวมถึงสวนดอกไม้ที่สวยงามที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นอีกด้วย

ทัวร์ทั้งหมดนำทางโดยไกด์ท้องถิ่น รวมบริการรับส่งโดยตรงไปยังคามิโคจิโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้รถโดยสารสาธารณะ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเพลิดเพลินกับคามิโคจิไม่ว่าจะมาคนเดียว มาเป็นครอบครัว หรือมากับเพื่อน ก็สามารถเลือกทัวร์ส่วนตัวของเราได้เช่นกัน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่ ‘จองกับเรา! ผู้ให้บริการทัวร์และเช่าเหมาลำอันดับ 1 ของนากาโนะ’ ด้านล่าง

เมื่อมาเยี่ยมเยือนคามิโคจิ: ฤดูกาลที่ดีที่สุด


คามิโคจิจะสวยงามทุกฤดูตลอดทั้งปี แต่สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แล้ว บางช่วงก็สวยงามกว่าช่วงอื่นๆ อย่างแน่นอนหากคุณกำลังวางแผนมาพัก เราก็ขอแนะนำเดือนพฤษภาคมหรือตุลาคมซึ่งเป็นเดือนที่ดีที่สุด แต่ก็ยังสามารถพบเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามได้ทุกเวลาเมื่อเดินทางไปคามิโคจิ

kamikochi-winter

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้เมื่อวางแผนการเยี่ยมชมคือ คามิโคจิจะปิดให้บริการขนส่งสาธารณะในช่วงฤดูหนาว ซึ่งโดยทั่วไปจะกำหนดไว้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนเมษายน วันเปิดทำการที่แน่นอนจะประกาศทุกปี แต่ปกติแล้วจะเป็นไปตามรูปแบบข้างต้นเสมอ นี่ไม่ได้เป็นการห้ามคุณเข้าชมคามิโคจิ แต่คุณจำเป็นจะต้องเดินป่าจากป้ายรถประจำทาง/ที่จอดรถที่ใกล้ที่สุด และจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเดินป่าในฤดูหนาวที่อันตรายและร้ายแรง โดยทางเราไม่แนะนำให้ลองเดินป่า หากไม่ได้เป็นนักเดินป่าที่มีประสบการณ์และเตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับสภาพอากาศต่ำกว่าจุดเยือกแข็งและหิมะที่ตกหนัก

เนื่องจากระดับความสูงของพื้นที่ ทำให้ฤดูกาลในคามิโคจิแตกต่างจากโตเกียวหรือแม้แต่เมืองมัตสึโมโต้เล็กน้อย โดยทั่วไปแล้ว คามิโคจิจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าโตเกียวประมาณ 10 – 15°C ในแต่ละวัน และคาดว่าจะมีหิมะตกบนพื้นดินในบางพื้นที่แม้กระทั่งในเดือนพฤษภาคม (และหิมะบนยอดเขาจนถึงเดือนสิงหาคมในเกือบทุกปี) ดังนั้นควรแต่งกายให้เหมาะกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี แม้ว่าฤดูร้อนจะมีอากาศอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่ในวันที่ฝนตกอาจทำให้อุณหภูมิต่ำลง เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง หิมะจะเริ่มตกเร็วกว่าในพื้นที่ลุ่ม และใบไม้จะเปลี่ยนสีเร็วกว่าเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยงามที่สุดในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และจุดชมวิวยอดนิยมอาจมีผู้คนพลุกพล่านเล็กน้อย

ดูรายละเอียดเดือนต่เดือนได้ด้านล่าง:

เมษายน: ต้นไม้หลายต้นยังคงไม่มีใบ และอาจยังมีวันที่มีหิมะตก/หิมะปกคลุมพื้นดินอยู่บ้าง ในช่วงปลายเดือน ดอกตูมจะเริ่มงอก และทิวทัศน์ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิจะสวยงามมาก อุณหภูมิในตอนกลางวันน่าจะอยู่ระหว่าง 0-10°C

พฤษภาคม: หุบเขาจะเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและมีแดดออกหลายวัน เราขอแนะนำเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุด โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะที่ทอดยาวเป็นแนวยาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นประมาณ 14-17°C ในตอนกลางวัน

มิถุนายน: ฤดูฝนได้เริ่มต้นขึ้น และจำนวนวันที่ฝนตกก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย มีหมอกลงหนาทำให้อาจมองเห็นภูเขาได้ยาก แต่ในวันที่อากาศแจ่มใสทิวทัศน์จะงดงามตระการตาเป็นอย่างมาก

กรกฎาคม: คล้ายกับเดือนมิถุนายน แต่จะมีวันที่อบอุ่นและมีแดดมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมในการหลีกหนีจากความร้อนของพื้นที่ราบลุ่ม และเพลิดเพลินไปกับอากาศเย็นสบายของคามิโคจิ

สิงหาคม: เดือนสิงหาคมและช่วงปลายๆ เดือนกรกฎาคม จะมีวันที่อบอุ่นและมีแดดจัดในคามิโคจิ เมื่อหิมะละลายไปมากแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของฤดูร้อนอย่างแท้จริง อุณหภูมิคาดว่าจะอยู่ที่ 20-25°C

กันยายน: แม้ว่าใบไม้จะยังเขียวขจี แต่ตอนกลางคืนจะเริ่มหนาวขึ้น และใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีอย่างช้าๆ โดยเริ่มตั้งแต่บนยอดเขา อุณหภูมิคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 10-17°C

ตุลาคม: เดือนตุลาคมเป็นช่วงที่มีใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุด และเนื่องจากมีแดดออกตลอดทั้งวัน ทำให้มีอุณหภูมิตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงหนาวจัด โดยทิวทัศน์มีเฉดสีแดงและเหลืองที่สวยงาม อาจมีผู้คนพลุกพล่านเล็กน้อย ดังนั้นควรจองล่วงหน้า

พฤศจิกายน: เดือนสุดท้ายที่สามารถเดินทางไปยังคามิโคจิได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ต้นไม้ส่วนใหญ่จะผลัดใบและหิมะจะเริ่มตก ภูเขาปกคลุมไปด้วยชั้นหิมะสีขาวสะอาดราวกับน้ำตาลไอซิ่ง

สถานที่พักแรมในคามิโคจิ


kamikochi-banner-edit

ผู้มาเยือนคามิโคจิสามารถเลือกพักในหุบเขา บริเวณใกล้เคียงในพื้นที่น้ำพุร้อนที่สวยงามและสะดวก หรือห่างออกไปเล็กน้อยในเมืองทาคายามะและมัตสึโมโต้ ที่หน้า ‘สถานที่พักแรมที่ดีที่สุด บริเวณคามิโคจิ’ ของเรา มีข้อมูลเกี่ยวกับที่พักในหุบเขาและพื้นที่ใกล้เคียง คามิโคจิมีที่พักบนภูเขาที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น มาพร้อมกับราคาที่ค่อนข้างสูงและจำเป็นต้องจองล่วงหน้า โชคดีที่ยังมีสถานที่ดีๆ ในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งในฮิรายุออนเซ็นและพื้นที่โอคุฮิดะออนเซ็นที่กว้างขวางกว่า พร้อมด้วยทาคายามะยอดนิยมทางตะวันตกและจุดหมายปลายทางอื่นๆ ทางตะวันออกของคามิโคจิ

ข้อมูลสำคัญในการเยี่ยมชม & กฎภายใน


kamikochi-banner-edit

เพื่อจำกัดการจราจรและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใน ยานพาหนะส่วนตัวจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามายังคามิโคจิ กฎนี้บังคับใช้อย่างเคร่งครัด ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม จำเป็นต้องใช้ยานพาหนะที่ได้รับอนุญาต อย่างเช่นแท็กซี่ รถโค้ช หรือบริษัททัวร์เพื่อเข้าไปในหุบเขา อย่างน้อยก็ในช่วงสุดท้ายของการเดินทางไปยังสถานีขนส่งคามิโคจิ ยานพาหนะที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในคามิโคจิจะถูกปฏิเสธตั้งแต่หน้าทางเข้า ผู้เยี่ยมชมสามารถเลือกขับรถเองได้ไกลถึงที่จอดรถสาธารณะด้านนอกคามิโคจิ ซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้าประมาณ 15 – 30 นาที และต้องใช้รถบัส แท็กซี่ หรือยานพาหนะที่จดทะเบียนอย่างเหมาะสมเพื่อเดินทางต่อเข้าไปในหุบเขา จากที่จอดรถสาธารณะ รถประจำทางหรือแท็กซี่ธรรมดา มักจะพานักท่องเที่ยวไปและกลับจากคามิโคจิตรงนั้น

kamikochi-banner-edit-2

การเข้าถึงคามิโคจิได้รับการควบคุมเพื่ออนุรักษ์ภูมิประเทศของหุบเขา และเพื่อรักษาระบบนิเวศที่สำคัญเอาไว้สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ ผู้เยี่ยมชมจะต้องปฏิบัติตามกฎต่อไปนี้:

— นำขยะกลับไปด้วย

— โปรดเดินอยู่บนเส้นทาง อย่าเหยียบเข้าไปในหนองน้ำ และพื้นที่ที่เปราะบาง

— ห้ามให้อาหารสัตว์

— ห้ามเก็บของป่าอะไรก็ตามกลับไปด้วย

— ตั้งแคมป์ได้ในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น

— จุดไฟได้ในเฉพาะพื้นที่ตั้งแคมป์

— น้ำที่อยู่เหนือแนวต้นไม้กำลังขาดแคลน โปรดอนุรักษ์แหล่งน้ำ

— ห้ามโยนก้อนหินหรือสิ่งของอะไรก็ตามลงไปในน้ำ

โดยสรุปแล้วในการมาเยี่ยมชมที่นี่ คุ๊สามารถถ่ายรูปได้ตามที่ต้องการ แต่ห้ามแตะต้องอะไรในคามิโคจิจนทำให้เกิดความเสียหาย

วิธีเดินทางไปยังคามิโคจิ


kamikochi-bus-banner-edit

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มุ่งหน้าไปยังคามิโคจิมักจะเดินทางผ่านมัตสึโมโต้เมื่อเข้ามาจากทางทิศตะวันออก และจะผ่านทางทาคายามะเมื่อเข้ามาจากทางตะวันตก หน้า ‘วิธีเดินทางไปคามิโคจิ’ ของเรา มีทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเดินทาง ไม่ว่าจะจากมัตสึโมโต้ ทาคายามะ นากาโนะ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า และอื่นๆ

ทัวร์และรถเหมาไปยังคามิโคจิ

สูดอากาศบริสุทธิ์บนภูเขาและเหยียดขาของคุณในคามิโคจิ!


kamikochi

ตั้งอยู่ในญี่ปุ่นตอนกลาง และดำเนินงานตั้งแต่เมษายน จนถึงพฤศจิกายน เรานำเสนอทัวร์กลุ่ม มัตสึโมโต้และคามิโคจิที่สนุกสนานเป็นอย่างยิ่งซึ่งรับรองว่าจะต้องถูกใจคุณอย่างแน่นอน ทัวร์ทั้งหมดนำโดยไกด์ท้องถิ่นและรวมการเยี่ยมชมสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งในมัตสึโมโต้เข้ากับการเดินป่าในหุบเขาคามิโคจิอันน่าทึ่ง ทัวร์ของเราสนุกสนาน โต้ตอบได้ และเหมาะสำหรับครอบครัว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองทัวร์โดยการคลิกแบนเนอร์หรือปุ่มด้านล่าง

เรามีความภูมิใจที่จะนำเสนอทัวร์คามิโคจิ ที่เริ่มต้นจากนาโกย่า ทัวร์นี้ไม่เพียงแต่จะพาคุณไปทัวร์คามิโคจิพร้อมไกด์นำเที่ยวเท่านั้น แต่ยังแวะที่สวนดอกไม้และฟาร์มที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงฮิดะเพื่อท่องเที่ยวผ่อนคลายทั้งวันท่ามกลางความงามตามฤดูกาลของญี่ปุ่น นาโกย่าเป็นจุดจอดหลักจุดหนึ่งของรถไฟสายโทไคโดชินคันเซ็น ทำให้ทัวร์นี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากโตเกียว โอซาก้า หรือเกียวโต

สำหรับนักท่องเที่ยวที่พักในภูมิภาคฮิดะ เรายังมีทัวร์คามิโคจิพร้อมบริการรับส่งจากทาคายามะด้วย ทัวร์นี้รวมการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีอาคารประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ซึ่งจัดแสดงมรดกทางสถาปัตยกรรมของทาคายามะ ทัวร์นี้ถือเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการทำความรู้จักกับพื้นที่และใช้เวลาสูดอากาศบริสุทธิ์

แน่นอนว่าเรายังนำเสนอทัวร์ส่วนตัวและบริการรับส่งในและรอบๆ บริเวณมัตสึโมโต้/คามิโคจิและจุดหมายปลายทางอื่นๆในภูมิภาคอีกด้วย คนขับและยานพาหนะของเราได้รับการรับรองโดยสมบูรณ์ ทำให้เราสามารถขนส่งคุณไปและกลับจากจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการร่วมกับกิจกรรมใดๆ ที่เหมาะกับตารางเวลาของคุณ ยานพาหนะทุกคันได้รับการดูแลอย่างดีและอยู่ในสภาพดี ช่วยให้คุณผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการเดินทางไปทุกที่

เราสามารถจัดทัวร์ส่วนตัวพร้อมไกด์ที่พูดภาษาอังกฤษหรือเหมาลำส่วนตัว รวมถึงรถยนต์ส่วนตัวพร้อมคนขับแบบไม่มีไกด์ เราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การผจญภัยของคุณในญี่ปุ่นตอนกลางสนุกที่สุด!

มีคำถามเกี่ยวกับการไปเยือนมัตสึโมโต้หรือคามิโคจิ? คลิกปุ่ม “สอบถาม”ด้านล่างหรือติดต่อเรา แล้วมาวางแผนร่วมกัน!

มัตสึโมโต้ คามิโคจิ และสุวะ

ทัวร์

กิจกรรม

ที่พัก

อีเว้นท์

สอบถาม

ที่พัก

เหมาลำ

ทัวร์