15 สิ่งน่าทำรอบๆ โคยะซัง (ภูเขาโคยะ) & สถานที่พักแรม

โคยะซัง เป็นศูนย์กลางของนิกายชินงอนของศาสนาพุทธ ถือเป็นวัดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และมีชูคุโบะ (ที่พักในวัด) มากกว่า 50 แห่ง ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ในหน้านี้ คุณจะพบข้อมูลต่อไปนี้:

— โคยะซังอยู่ที่ไหน?

— สิ่งที่คาดหวัง & เหตุผลที่ควรมาเยี่ยมเยือน

— ไฮไลท์ยอดเยี่ยมรอบๆ โคยะซัง

— สถานที่พักแรมยอดเยี่ยมที่โคยะซัง

— วิธีเดินทางไปยังโคยะซัง

— วางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณ

เมื่อพิจารณาถึงการเยี่ยมชมโคยะซัง ถึงแม้เส้นทางที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดจะเป็นที่โอซาก้า และผู้คนมักไปเยี่ยมชมแบบไปเช้าเย็นกลับจากเมืองนั้น แต่โคยะซังก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางทางศาสนาที่สำคัญอย่างยิ่งใน “คาบสมุทรคิอิ” คาบสมุทรนี้ตั้งชื่อตามอดีตจังหวัดคิอิ ซึ่งเป็นแผ่นดินขนาดใหญ่ระหว่างโอซาก้าและนาโกย่าที่ยื่นออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิก นักท่องเที่ยวต่างชาติมักมองข้ามคาบสมุทรคิอิ ขณะเดินทางผ่านเมืองต่างๆ ด้วยรถไฟชินคันเซ็นโทไคโด คาบสมุทรคิอิมีศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่นหลายแห่ง เช่น ภูเขาวัดโคยะซัง ศาลเจ้าอิเสะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น และเส้นทางแสวงบุญ วัด และศาลเจ้าของคุมาโนะโคโดะ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าจะเข้าถึงโคยะซังได้ง่ายที่สุดจากโอซาก้า แต่เราขอแนะนำให้พิจารณาสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ร่วมกับจุดหมายปลายทางเหล่านั้น และอีกเหตุผลสำคัญที่ควรไปเยี่ยมชมคาบสมุทรคิอิในครั้งต่อไปที่มาเยือนญี่ปุ่น

โคยะซังอยู่ที่ไหน?

ภูเขาโคยะหรือ ‘โคยะซัง’ ตั้งอยู่ในจังหวัดวากายามะ ห่างจากโอซาก้าไปทางทิศใต้ประมาณ 90 กม. / ขับรถ 2 ชั่วโมง โคยะซังเป็นพื้นที่ค่อนข้างเล็ก ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร ประกอบด้วยวัดสำคัญหลายแห่ง และวัดย่อยกว่า 120 แห่ง ศาลเจ้า สุสาน และมหาวิทยาลัย ดังนั้น จึงสามารถเดินเที่ยวชมได้ง่าย โดยสามารถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมส่วนใหญ่ได้ภายในระยะที่เดินถึงกัน นอกจากนี้ยังมีบริการรถบัสท้องถิ่น 3 สายที่วิ่งระหว่างวัด ศาลเจ้า และป้ายจอดอื่นๆ สามารถเดินทางไปยังโคยะซังได้ง่ายที่สุดจากโอซาก้า โดยใช้รถไฟสายนันไกโคยะไปยังสถานีโกคุราคุบาชิ ใช้เวลา 80 – 120 นาที (ขึ้นอยู่กับบริการที่คุณเลือก) จากนั้นกระเช้าลอยฟ้าโคยะซัง จะพานักท่องเที่ยวไปยังสถานีด้านบน ซึ่งใช้เวลา 5 นาที มีรถบัสจากสถานีด้านบนไปยังบริเวณวัดหลักซึ่งใช้เวลาอีก 10 นาที

สิ่งที่คาดหวัง & เหตุผลที่ควรมาเยี่ยมเยือน

ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 819 โดยคุไค ผู้ก่อตั้งนิกายชินงอนในญี่ปุ่น ซึ่งภายหลังได้ชื่อว่า ‘โคโบะ ไดชิ’ โคยะซังและวัดหลักคงโกบุ-จิ ยังคงเป็นสำนักงานใหญ่ของนิกายชินงอนจนถึงทุกวันนี้ ในฐานะนิกายหลักอีกนิกายหนึ่งของญี่ปุ่น นิกายชินงอนมีวัดในเครือมากกว่า 3,700 แห่ง และคำสอนของนิกายนี้ยังคงสอดแทรกอยู่ในโครงสร้างทางวัฒนธรรมของประเทศโดยรวมคงโกบุ-จิ เป็นวัดหลักของนิกายนี้ ซึ่งได้รับสถานะมรดกโลกส่วนหนึ่งของ ‘สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางแสวงบุญในเทือกเขาคิอิ’ และเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่มภูเขาโดยรวม เป็นสถานที่ทางศาสนาที่กะทัดรัดและน่าดึงดูดใจ ซึ่งยังรวมถึงวัดสำคัญอื่นๆ และวัดย่อยจำนวนมาก มหาวิทยาลัยที่อุทิศตนเพื่อการศึกษาด้านศาสนา รวมถึงสุสานของคุไค และโชกุนคนที่สามของญี่ปุ่นโทคุกาวะ อิเอมิตสึ

เมืองเล็กๆ แห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาอันเงียบสงบ มีบรรยากาศที่สงบเงียบและน่าดึงดูดใจ ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเลือกพักค้างคืนที่ ‘ชูคุโบะ’ (ที่พักในวัด) กว่า 50 แห่ง เพื่อให้แขกได้สัมผัสกับชีวิตในวัด ชูคุโบะมีห้องพักแบบดั้งเดิมที่เรียบง่ายแต่สะดวกสบาย พร้อมฟูกนอนบนพื้น และเสิร์ฟเมนูมังสวิรัติ ‘โชจินเรียวริ’ ซึ่งแปลว่า ‘อาหารแห่งความศรัทธา’ และยังมีการปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนามากมายให้แขกได้ร่วมสนุกอีกด้วย

ผู้เยี่ยมชมที่สนใจในพระพุทธศาสนาแบบญี่ปุ่น หรือเพียงแค่ต้องการชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรม วัด ศิลปะ และประเพณีดั้งเดิมของวัดแห่งนี้ จะต้องประทับใจกับการมาเยี่ยมชมโคยะซัง ไม่ว่าจะมาแบบไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืนก็ตาม ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาที่ดีเป็นพิเศษในการมาเยี่ยมชม เนื่องจากวัดบนภูเขาจะรายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม

ไฮไลท์ยอดเยี่ยมรอบๆ โคยะซัง

โคยะซังอยู่ไม่ไกลจากโอซาก้า ถือเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเป็นที่ตั้งของวัดและวัดย่อยกว่าร้อยแห่ง รวมถึงชูคุโบะ (ที่พักในวัด) มากกว่า 50 หลัง คุณสามารถมาเที่ยวโคยะซังได้แบบไปเช้าเย็นกลับ แต่การพักค้างคืนอาจคุ้มค่าที่สุด ชูคุโบะยินดีต้อนรับแขกผู้มาเยือนจากทุกศาสนาและทุกภูมิหลัง พร้อมตัวเลือกในการร่วมสวดมนต์ตอนเช้า และปฏิบัติธรรมอื่นๆ ของพุทธศาสนา กล่าวโดยสรุป โคยะซังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าที่สุดในญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วย:

1 / วัดคงโกบุ-จิ

วัดคองโกบุ-จิ เป็นวัดที่สำคัญที่สุดของนิกายชินงอน และถือเป็นหนึ่งในวัดพุทธที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น วัดนี้ได้รับมอบหมายให้สร้างโดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ซึ่งเป็น ‘บุคคลสำคัญผู้รวมแผ่นดินญี่ปุ่น คนที่สอง’ เพื่อรำลึกถึงมารดาของเขาในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ต่อมาโครงสร้างเดิมได้รับการปฏิรูปและเชื่อมกับวัดใกล้เคียง จนกลายเป็นวัดหลักของนิกายชินงอน และเป็นจุดศูนย์กลางของวัดโคยะซัง แม้ว่าด้านหน้าของวัดจะไม่อลังการเท่ากับวัดใหญ่ที่อื่นๆ ของญี่ปุ่น แต่ภายในวัดคองโกบุจินั้นมีความสวยงามอย่างแท้จริง โดยผู้เยี่ยมชมสามารถเดินผ่าน ‘ห้องโอฮิโรมะ’ ที่มี ‘ฟุซึมะ’ (ประตูบานเลื่อน) เคลือบทอง ‘ห้องพลัม’ และ ‘ห้องวิลโลว์’ ซึ่งมีฟุซึมะที่ทาสีอย่างวิจิตรบรรจงเช่นกัน และเดินไปยังสวนหินบันริวเทอิ ซึ่งเป็นสวนหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

โดยพื้นฐานแล้ว การไปเยี่ยมชมโคยะซังทุกครั้งต้องเริ่มจากวัดคงโกบุจิก่อน จึงจะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ บนภูเขาได้ วัดนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 08:30 – 17:00 น. (เปิดให้เข้าชมครั้งสุดท้ายเวลา 16:30 น.) ค่าเข้าชมวัดอยู่ที่ 500 เยน หรือสามารถเข้าชมร่วมกับสถานที่อื่นๆ ได้โดยใช้ “ตั๋วรวม” ที่มีจำหน่ายที่สำนักงานข้อมูลนักท่องเที่ยวโคยะซังในราคา 2,500 เยน

2 / วัดโอคุโนะอิน และรูปปั้นท่านโคโบไดชิ

วัดโอคุโนะอินซึ่งตั้งอยู่ห่างจากวัดคงโกบุจิไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถือเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโคยะซัง ทางเข้าวัดอันกว้างใหญ่มีสะพานอิจิโนะฮาชิ (สะพานแรก) เป็นจุดสังเกต ซึ่งทอดยาวไปตามถนนป่ายาว 2 กิโลเมตร ผ่านสุสานที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีหลุมศพ โคมหิน และรูปปั้นมากกว่า 200,000 ชิ้นเรียงรายอยู่ตลอดทางเดินที่นำไปสู่สุสานของคุไค ซึ่งต่อมาได้รับการขนานนามว่าโคโบะ ไดชิ ก่อนจะไปถึงสุสาน ผู้เยี่ยมชมจะต้องผ่านโถงถวายเครื่องเซ่นไหว้โกคุโชและข้ามสะพานโกเบียโอฮาชิซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบริเวณด้านในและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของวัด

ห้ามถ่ายรูปหลังจากเดินข้ามสะพานโกเบียวฮาชิ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนความศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรนี้ การก้าวเข้าไปในวิหารด้านในถือเป็นประสบการณ์ที่เคร่งขรึมและน่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยจะพบได้จากการเข้าไปในห้องโถงโทโรดดะ หรือ ‘โถงแห่งโคมไฟ’ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง) และไปที่โกเบียว (สุสานของโคโบไดชิ) ที่อยู่ด้านหลังโทโรโดะ โดยกล่าวกันว่าสถานที่แห่งนี้จะคงอยู่ในสมาธิ จนกว่าพระพุทธเจ้าในอนาคตจะเสด็จมา นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญต่างเดินทางมายังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จากทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลก สามารถเข้าชมพื้นที่โอคุโนะอินได้ตลอดเวลา และจะสามารถเข้าชมทุกพื้นที่ รวมทั้งโกคุโช (08:30 / 17:00 น.) และโทโรโดะ (06:00 – 17:30 น.) ได้ฟรี

3 / ห้องโถงโทโรโดะ

แม้ว่าโทโรโดะ หรือ ‘ห้องแห่งโคมไฟ’ จะตั้งอยู่ในโอคุโนะอิน ซึ่งเป็นห้องโถงหลักสำหรับการสักการะ แต่ก็ควรค่าแก่การกล่าวถึงความสวยงามเฉพาะตัวของที่นี่ ห้องโถงของวัดมีโคมไฟสีทองมากกว่า 10,000 ดวง รวมถึงรูปปั้นมากกว่า 50,000 ชิ้น ที่บริจาคให้กับวัดเพื่อรำลึกถึงโคโบไดชิ กล่าวกันว่าโคมไฟถูกจุดขึ้นที่นี่อย่างต่อเนื่องมานานกว่าหนึ่งพันปี เนื่องจากวัดทำหน้าที่เป็นห้องโถงหลักของการสักการะโคโบไดชิ มีข้อห้ามถ่ายรูปในบริเวณนี้ ทำให้ประสบการณ์โดยรวมดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น และทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คุณต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง เพื่อสัมผัสถึงความงดงามและความหมายที่แท้จริงของสถานที่แห่งนี้ โทโรโดะเปิดทุกวันตั้งแต่ 06:00 – 17:30 น. และไม่เสียค่าเข้าชม

4 / การัน

เดินไปทางทิศตะวันตกของวัดคองโกบุ-จิ ไม่ถึง 5 นาที ดันโจ-การัน หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘การัน’ เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของโคยะซัง – วัดหนึ่งที่สร้างขึ้นในช่วงชีวิตของคุไค แม้ว่าคุไคจะไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อดูการสร้างนี้จนเสร็จสมบูรณ์ แต่เขาก็ได้สั่งสอนผู้ติดตามภายในบริเวณวัดเอาไว้ โดยให้ความสำคัญกับผู้นับถือศาสนาพุทธนิกายชินงอนและชาวญี่ปุ่นโดยทั่วไป วัดประกอบด้วยอาคารประมาณ 20 หลัง โดยคอนโดะ (ห้องโถงหลัก) และเจดีย์ คอนปอน ไดโตะ ขนาดใหญ่ ถือเป็นโครงสร้างที่โดดเด่นที่สุด เจดีย์สีแดงเข้มสองชั้นสูง 45 เมตรที่ประดิษฐานรูปปั้น ‘ไดนิชิ เนียวไร’ (พระพุทธเจ้าแห่งจักรวาล) และอาจเป็นโครงสร้างที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของโคยะซัง และแน่นอนว่าเป็นอีกวัดหนึ่งที่คุณต้องไปเยี่ยมชมเมื่ออยู่ที่นั่น บริเวณวัดเปิดทุกวันและไม่เสียค่าเข้าชม สามารถเข้าชมห้องโถงคอนโดะ และเจดีย์คอนปอน ไดโตะได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08:30 – 17:00 น. ค่าเข้าชมสถานที่แต่ละแห่งอยู่ที่ 500 เยน หรือสามารถเข้าชมสถานที่ต่างๆ พร้อมกับสถานที่อื่นๆ ได้โดยใช้ “ตั๋วรวม” ที่จำหน่ายที่สำนักงานข้อมูลนักท่องเที่ยวโคยะซัง ในราคา 2,500 เยน

5 / ไดชิเคียวไค

วัดไดชิเคียวไค ตั้งอยู่ห่างจากคงโกบุ-จิ เพียงไม่กี่นาทีโดยการเดิน ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบริหารของโคยะซัง ซึ่งมีหน้าที่เผยแพร่คำสอนและแนวทางปฏิบัติของศาสนาพุทธนิกายชินงอน ผู้เยี่ยมชมไดชิเคียวไค สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ เช่น รับ ‘จุไค’ (ศีล) และ ‘ชาเกียว’ (การคัดลอกพระคัมภีร์) โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า กิจกรรมเหล่านี้และกิจกรรมอื่นๆ จะจัดขึ้นในอาคารบริหารสมัยใหม่ของวัด ในขณะที่ ‘เฮ็นโจเด็น’ ซึ่งเป็นห้องโถงวัดแบบดั้งเดิมนั้นอุทิศให้กับโคโบไดชิ และสถานที่อีกแห่งสำหรับการอุทิศตนอย่างลึกซึ้ง วัดเปิดทุกวันตั้งแต่ 08:30 – 17:30 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:30 น.) และเข้าชมได้ฟรี บริการ ‘จุไค’ จะมีทุกชั่วโมงตั้งแต่ 09:00 – 16:00 น. และมีค่าใช้จ่าย 1,000 เยน หรือรวมอยู่ใน ‘ตั๋วรวม’ ซึ่งมีจำหน่ายที่สำนักงานข้อมูลนักท่องเที่ยวโคยะซัง ในราคา 2,500 เยน

6 / พิพิธภัณฑ์ โคยะซัง เรย์โฮคัง

พิพิธภัณฑ์เรย์โฮคัง ก่อตั้งขึ้นในปี 1921 ตั้งอยู่ตรงข้ามกับไดชิเคียวไค เก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของโคยะซังไว้มากมาย ในจำนวนสิ่งของประมาณ 78,000 ชิ้นในคอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์ ประกอบไปด้วย ประติมากรรมพุทธ ภาพวาด อักษรวิจิตร พิธีกรรม และสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ มีประมาณ 28,000 ชิ้นที่เป็น “สิ่งของทางวัฒนธรรม ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติประจำชาติ” รวมถึง “สมบัติของชาติ” 21 ชิ้น และ “ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ” 149 ชิ้น เนื่องจากคอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์นั้นมีขนาดใหญ่ นิทรรศการจึงหมุนเวียนตามฤดูกาล พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน (ยกเว้นช่วงปีใหม่) ตั้งแต่เวลา 08:30 – 17:30 น. (และเปิดจนถึง 19:00 น. ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน) โดยเปิดให้เข้าชมก่อนเวลา 30 นาที ค่าเข้าชม 1,300 เยน

7 / เข้าพักที่ ‘ชูคุโบะ’ (บ้านพักของทางวัด)

โคยะซัง มีวัดย่อยประมาณ 120 แห่ง ซึ่งประมาณ 50 แห่งนั้น เปิดให้บริการที่พักในรูปแบบ ‘ชูคุโบะ’ แนวดั้งเดิมอีกด้วย ‘ชูคุโบ’ ก็คือ ‘เรียวกัง’ ซึ่งเป็นเกสต์เฮาส์แบบดั้งเดิมที่ให้ที่พักแก่ผู้มาเยือนบริเวณใกล้เคียง หรือภายในบริเวณวัดและศาลเจ้า แขกที่มาเข้าพัก จะสามารถสัมผัสวิถีชีวิตประจำวันของเหล่าพระสงฆ์ได้ ชูคุโบะมักจะให้บริการห้องพักแบบดั้งเดิมพร้อมเสื่อทาทามิ เฟอร์นิเจอร์เตี้ย และ ‘ฟูก’ ปูพื้น รวมถึงการเสิร์ฟเมนูมังสวิรัติที่เรียกว่า ‘โชจินเรียวริ’ (อาหารของพระสงฆ์) – ดูเพิ่มเติมด้านล่าง ราคาที่พักแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 9,000 – 15,000 เยนต่อคน รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า ชูคุโบะส่วนใหญ่ให้แขกได้ร่วมสวดมนต์ตอนเช้า และหลายแห่งยังเสนอเซสชั่นการทำสมาธิแบบมีไกด์ในระหว่างวันด้วย เดิมทีตั้งใจให้ให้บริการที่พักแก่ผู้แสวงบุญและผู้ปฏิบัติธรรมชาวพุทธอื่นๆ ชูคุโบะส่วนใหญ่ จะเปิดให้บริการสำหรับแขกที่มีความเชื่อหรือภูมิหลังใดๆ ก็ได้ โดยไม่คำนึงว่าจะมาแสวงบุญหรือมาเยี่ยมเยียนด้วยเหตุผลอื่น สำหรับรายชื่อที่พัก โปรดดูหน้าโรงแรม ‘บริเวณโคยะซัง (ภูเขาโคยะ)’ ของเรา

8 / เพลิดเพลินไปกับประเพณีเมนู ‘โชจิน เรียวริ’

โชจินเรียวริ ถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 13 เป็นอาหารที่ทำจากผัก ซึ่งปรุงและเสิร์ฟให้พระสงฆ์รับประทานเป็นอาหารประจำวัน แปลว่า “อาหารแห่งความศรัทธา” เมนูนี้ไม่มีอาหารมื้อหลัก เนื้อปลา หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และมักใช้ส่วนผสมอย่างเต้าหู้ ผักตามฤดูกาล รวมถึงซันไซ (ผักป่าบนภูเขา) รสชาติมีความละเอียดอ่อนและอร่อยตาม “กฎแห่งห้า” ซึ่งได้แก่ รสชาติ 5 อย่างได้แก่ หวาน เปรี้ยว เค็ม ขม และอูมามิ และ 5 สี ได้แก่ เขียว เหลือง แดง ดำ และขาว ซึ่งมุ่งหวังที่จะมอบเมนูที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการให้กับพระสงฆ์ ที่พักชูคุโบะในโคยะซัง มีการเสิร์ฟเมนูโชจินเรียวริสำหรับมื้อเย็นและมื้อเช้า ซึ่งเป็นจุดเด่นของการเข้าพัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโชจินเรียวริเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ทานมังสวิรัติมาก เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่ไม่ว่าคุณจะมีข้อกำหนดด้านอาหารดังกล่าวหรือไม่ ก็ควรลองชิมอย่างน้อยสักครั้ง และอาจจะดีที่สุดหากได้ลิ้มลองขณะเข้าพักที่โคยะซัง

9 / เดินบนเส้นทางแสวงบุญของโคยะซัง

ก่อนจะมีการนำโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่เข้ามาใช้ในพื้นที่นี้ การเข้าถึงโคยะซังสมัยก่อนทำได้โดยการเดินเท้าเท่านั้น โดยใช้เส้นทางแสวงบุญเป็นเครือข่าย เส้นทางนั้นเรียกว่า ‘โคยะซัง โชอิชิ มิจิ’ มีความยาว 23.5 กิโลเมตร เมื่อเริ่มต้นจากสถานีคุโดยามะ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินที่สามารถเข้าถึงได้ใกล้กับสถานีคามิโคซาวะ และสถานีคิอิโฮโซกาวะ ทำให้เดินได้สั้นลงจาก 7 ชั่วโมงเหลือ 5 หรือ 3 ชั่วโมง ตามลำดับ มีการวางป้ายหินเป็นระยะๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อนำผู้เยี่ยมชมไปยังประตูไดมอน (ดูรายละเอียดด้านล่าง) และกลุ่มอาคารวัดโคยะซัง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางที่สั้นกว่าอื่นๆ เช่น เส้นทางฟุโดซากะ และเส้นทางแสวงบุญของสตรี รวมถึงเส้นทางโคเฮจิที่ท้าทายกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเส้นทางยาว 65 กิโลเมตร เชื่อมโคยะซังเข้ากับแหล่งมรดกโลกอย่างคุมาโนะโคโดะ ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินตามรอยเท้าของผู้แสวงบุญและผู้ศรัทธาจำนวนนับไม่ถ้วน ที่เคยเดินทางมาที่โคยะซังมาหลายศตวรรษ

10 / โคยะซัง ไดมอน

ผู้เยี่ยมชมที่เดินทางมายังโคยะซังตามเส้นทางโชชิมิจิ จะต้องผ่านประตูใหญ่ที่เรียกว่า “ไดมอน” ประตูนี้สูง 25 เมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1705 และเป็นที่ประดิษฐานของ “นิโอะ” (ผู้พิทักษ์ผู้โกรธเกรี้ยว) ขนาดใหญ่ 2 ตัว ซึ่งว่ากันว่าเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น รองจาก “นิโอะ” ขแงเมืองนารา ภายในไดมอนของวัดโทไดจิ ซึ่งถือเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ประตูนี้เปิดไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน และเปิดให้เข้าชมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม

11 / ใบไม้เปลี่ยนสีที่โคยะซัง

โคยะซัง เป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีความสวยงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มปกคลุมวัดต่างๆ มากมายในเฉดสีแดง เหลือง ส้ม และน้ำตาลที่งดงาม โดยปกติแล้วใบไม้จะสวยที่สุดในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นช่วงเวลาที่น่าเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง ความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่นิยมเยี่ยมชมโคยะซังเป็นพิเศษ ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะพักที่ “ชูคุโบะ” ระหว่างอยู่ที่นั่น อย่าลืมจองล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้พักในช่วงเวลาที่คุณต้องการ

12 / เยี่ยมเยียน เกียวโต, นารา & โอซาก้า

เมืองเกียวโต นารา และโอซาก้า เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างญี่ปุ่นตอนกลางและตะวันตก ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากเมืองทั้งสามแห่งนี้อยู่ใกล้กัน จึงทำให้สามารถเดินทางไปกลับระหว่างเมืองต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงจัดกลุ่มเมืองเหล่านี้ไว้ในแผนการเดินทาง แต่บางคนอาจสงสัยว่าเมืองทั้งสองแห่งมีอะไรน่าสนใจบ้าง โอซาก้าเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้กับโคยะซังมากที่สุด เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขึ้นชื่อในเรื่องการจับจ่ายซื้อของ ชีวิตกลางคืน และอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุด ส่วนเกียวโตและนาราที่อยู่ใกล้เคียงกันนั้น เป็นอดีตเมืองหลวงและเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีวัดและศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของประเทศอยู่หลายแห่ง หน้า ’40 สิ่งที่ควรทำในเกียวโต นารา และโอซาก้า’ ของเรามีรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เราชื่นชอบในทั้งสามเมือง รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับที่พักของเราด้วย

13 / เดินเล่นที่ ‘คุมาโนะ โคโด’

เป็นเวลากว่า 1,000 ปีแล้ว ที่พระภิกษุ นักแสวงบุญ ขุนนาง และฆราวาส ได้สัญจรไปตามเส้นทางแสวงบุญคุมาโนะ โคโด ระหว่างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัดต่างๆ บนคาบสมุทรคิอิ เส้นทางแสวงบุญคุมาโนะ โคโด เป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญที่คุ้มค่าที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญเพียงสองเส้นทางในโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ร่วมกับเส้นทางนักบุญยากอบในสเปน  มีเส้นทางมากมายที่สามารถเดินได้ ซึ่งมีระดับความยากและระยะทางที่แตกต่างกัน เช่น เส้นทางโคเฮจิ ระยะทาง 65 กิโลเมตรที่เชื่อมระหว่างโคยะซังกับคุมาโนะ โคโด โดยเส้นทางนี้จะใช้เวลาเดินประมาณหนึ่งสัปดาห์ และควรให้เฉพาะนักเดินป่าที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และมีประสบการณ์เท่านั้น โดยเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเส้นทางนากาเฮจิ

ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนกุไ ทฉะ ซึ่งทอดยาวจากเมืองทานาเบะ ไปทางชายฝั่งตะวันตก 30 กม. เป็นศาลเจ้าที่ใช้เวลาเดินสบายๆ 2 วัน โดยต้องพักค้างคืนที่ชิคัตสึยะ โอจิ และจะสิ้นสุดที่ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนกุ ไทฉะ ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าหลักในคุมาโนะ ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนกุ ไทฉะ ตั้งอยู่ใจกลางเส้นทางแสวงบุญคุมาโนะ โคโด ทำหน้าที่เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าคุมาโนะกว่า 3,000 แห่ง ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮายาตามะ ไทฉะ และศาลเจ้าคุมาโนะ นาจิ ไทฉะ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน เป็นศาลเจ้าสำคัญแห่งหนึ่งในคุมาโนะที่ประดิษฐานเทพเจ้าหลายองค์ เช่น เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์อามาเทราสึ

14 / เยี่ยมชมศาลเจ้าใหญ่อิเสะ

ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟประมาณ 5.5 ชั่วโมงจากโคยะซัง อิเสะชิมะ หรือคาบสมุทรอิเสะ เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าชินโตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น อิเสะชิมะได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและความงามตามธรรมชาติ พื้นที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวนมากจากนาโกย่า เกียวโต โอซาก้า และโตเกียว ศาลเจ้าใหญ่อิเสะ ประกอบด้วยศาลเจ้าหลักสองแห่ง ได้แก่ โคไทจิงกุ (ศาลเจ้าชั้นใน) และเกกุ (ศาลเจ้าชั้นนอก) เชื่อกันว่าศาลเจ้าชั้นในสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อกว่า 2,000 และ 1,500 ปี (ตามลำดับ) โดยจะมีการรื้อถอน ย้าย และบูรณะใหม่ทุก ๆ 20 ปี ต่อมาในปี 2033 ประเพณีนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อของศาสนาชินโตที่ว่าความตายและการฟื้นคืนชีพ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและต่อเนื่องของการดำรงอยู่ ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่สอนทักษะที่จำเป็นในการสร้างและดูแลรักษาศาลเจ้าให้กับคนแต่ละรุ่น ศาลเจ้าทั้งหมดมีมากกว่า 100 แห่ง โดยศาลเจ้าหลัก 2 แห่ง ได้แก่โคไทจิงกุ และเกกุ ตั้งอยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร

15 / เยี่ยมเยียนนาโกย่า & ญี่ปุ่นตอนกลาง

สำหรับนักเดินทางที่เดินทางไปถึงอิเสะ ควรเดินทางไกลออกไปอีกหน่อย และไปที่นาโกย่า ซึ่งเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่นและเป็นประตูสู่จุดท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ มากมายในญี่ปุ่นตอนกลาง นาโกย่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสร้างสรรค์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและร้านอาหารอร่อยๆ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมในการเดินทางไปยังญี่ปุ่นตอนกลาง โดยมีจุดหมายปลายทาง เช่น หุบเขาคิโซะ นากาเซ็นโดะ มัตสึโมโต้ และนากาโนะ ซึ่งเดินทางถึงได้โดยใช้บริการรถด่วนพิเศษ ‘ชินาโนะ’ ร่วมกับเกโระออนเซ็น ทาคายามะ และเดินทางไกลไปถึงโทยามะโดยใช้บริการรถด่วนพิเศษ ‘ฮิดะ’ หน้า ’25 สิ่งที่ควรทำรอบๆ นาโกย่าและสถานที่พักแรม’ ของเรา มีคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่มีให้บริการในเมืองและรอบๆ เมือง รวมถึงสถานที่ที่ดีที่สุดในการหาที่พัก

สถานที่พักยอดเยี่ยมในโคยะซัง

นักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่โคยะซัง ควรพิจารณาท่องเที่ยวค้างแรม และพักที่ “ชูคุโบะ” (ที่พักแบบดั้งเดิมของวัด) ซึ่งมีมากกว่า 50 แห่ง ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น การพักที่ชูคุโบะ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในโคยะซัง มีราคาจะแตกต่างกันไปตามเกสต์เฮาส์ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 9,000 – 15,000 เยนต่อคน ชูคุโบะให้บริการเมนู “โชจินเรียวริ” หรือ “อาหารสำหรับอุทิศตน” แบบดั้งเดิม ซึ่งพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จะทำการปรุงอาหารให้ นอกจากนี้ ชูคุโบะส่วนใหญ่ยังเปิดโอกาสให้แขกได้ร่วมสวดมนต์ตอนเช้าและปฏิบัติธรรมอื่นๆ เช่น การทำสมาธิ ชูคุโบะส่วนใหญ่มีจุดประสงค์ดั้งเดิม เพื่อให้บริการที่พักแก่ผู้แสวงบุญและผู้ปฏิบัติธรรมชาวพุทธ โดยเปิดให้บริการแก่แขกที่มีความเชื่อหรือภูมิหลังใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะมาแสวงบุญหรือมาเยี่ยมเยียนด้วยเหตุผลอื่นๆ สำหรับรายชื่อที่พัก โปรดดูหน้าโรงแรม ‘บริเวณภูเขาโคยะ (โคยะซัง)’ ของเรา

วิธีเดินทางไปโคยะซัง

สามารถเดินทางไปยังโคยะซังได้ง่ายที่สุดโดยขึ้นรถไฟสายนันไกโคยะ ไปยังสถานีโกคุราคุบาชิ และต่อกระเช้าลอยฟ้าโคยะซัง หน้า ‘วิธีเดินทางไปยังโคยะซัง (ภูเขาโคยะ)’ ของเรา มีคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีเดินทางจากโอซาก้า เกียวโต นาโกย่า โตเกียว และจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ

วางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณ

หน้า ‘วางแผนการเยี่ยมชม’ ของเรา มีข้อมูลทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเยี่ยมชมประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เคล็ดลับเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีในการเดินทาง เวลาที่ควรหลีกเลี่ยง การเข้าออกประเทศ เรื่องเงิน การเชื่อมต่อ ที่พัก การรักษาความปลอดภัยและสุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเวลาที่คุณอยู่ที่นี่